ปี 2008 เป็นปีแรกของการใช้ชีวิต
ในVancouver ของครอบครัวครูยุ่น..
วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2008
คุณสามีบอกว่าต้องตั้งเวลาใหม่
ถอยหลังไปหนึ่งชั่วโมง (back 1 hour)
วันนี้เป็น ended Daylight saving time
และแล้ว...ครูยุ่นก็เจออีกครั้ง
ในวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม 2009
แต่ครั้งนี้..ให้เลื่อนขึ้นมาหนึ่งชั่วโมง (forward 1
hour)
เป็นการเริ่มต้น Daylight
Saving Time
งานนี้ครูยุ่นก็ต้องมีการตามล่าหาข้อมูลกันหน่อย
เพราะให้เกิดเครื่องหมายคำถามว่าทำไม???
ไม่เคยรู้เลยว่า..อย่างนี้ก็มีในโลก...
ประเทศทางแถบ North America…
แต่ละปี ช่วงชั่วโมงสั้นๆ ( wee hours )
หลังเที่ยงคืน...ประมาณตีสอง...
เช้าวันอาทิตย์สัปดาห์ที่สองของเดือนมีนาคม
เวลา 60 นาทีจะหายไปจากนาฬิกา
นี่คือจุดเริ่มต้นของ Daylight Saving Time…
เป็นอย่างนี้ไปประมาณ 30 กว่าสัปดาห์
และเวลาที่หายไปนั้นจะกลับมาใหม่อีกครั้ง
ในวันอาทิตย์แรกของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี
ซึ่งเป็นการจบ Daylight Saving Time..
Daylight Saving Time เป็นการตั้งเวลาให้เร็วขึ้นจากเดิมหนึ่งชั่วโมง
ในช่วง Summer Time ของประเทศที่อยู่ไกลจากเส้นศูนย์สูตร
ซึ่ง Summer กลางวันจะยาวกว่ากลางคืนเมื่อเทียบกับ Winter
(Daylight hours are much longer in the summer than in the
winter)
ประโยชน์ของการมี Daylight
Saving Time คือ
ชั่วโมงที่ลดลงจะช่วยประหยัดพลังงาน
ทั้งในภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจต่างๆ
ซึ่งพลังงานที่ประหยัดได้เหล่านี้
สามารถนำมาใช้ในช่วงหน้าหนาว
ซึ่งแสงแดดน้อยมากในซีกโลกตะวันตก
นอกจากนี้ยังลดปัญหาอาชญากรรม
และปัญหาอุบัติเหตุทางรถยนต์อีกด้วย
แต่สำหรับประเทศที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร
กลางวันกับกลางคืนจะมีช่วงเวลาที่ไม่แตกต่างกันตลอดทั้งปี
(Daylight hours and nighttime hours are nearly the same in
length throughout the year)
และนี่คือสาเหตุว่าทำไมหลายๆเมือง
และหลายๆประเทศที่อยู่แถบเส้นศูนย์สูตร
จึงไม่มีการใช้ Daylight Saving Time
รวมทั้งหลายๆเมืองในอเมริกา
ก็ไม่ได้ใช้ Daylight Saving Timeเช่นกัน
เช่น Arizona, Hawaii, Puerto Rico,
the U.S.Virgin Islands
and American Samoa
ปัจจุบันมีประมาณ 70ประเทศทั่วโลก
ที่มีการใช้ Daylight Saving Time
ซึ่งแต่ละที่ก็มีตารางเวลา
Daylight Saving Time ที่แตกต่างกัน
ตามฤดูกาลของประเทศตนเอง...
เช่น ในยุโรป Daylight Saving Time
เริ่มวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมีนาคม
จนถึงวันอาทิตย์แรกของเดือนตุลาคม
หรือประเทศทางแถบ Southern hemisphere
Daylight Saving Time จะเริ่มเดือนธันวาคม
ซึ่งเป็นช่วง Summer Time
และสิ้นสุดในเดือนมีนาคม
หรือประเทศคีร์กีซสถาน (Kyrgyzstan) และ Iceland
มีการใช้ Daylight Saving Time ตลอดทั้งปี
ในขณะที่ประเทศทางแถบเส้นศูนย์สูตร
ไม่มีการใช้ Daylight Saving Time เลย
และเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ก็เป็นวันสิ้นสุด Daylight Saving Time ของแคนาดา
ซึ่งคืนนั้น...พวกเราก็ได้นอนมากขึ้นอีกหนึ่งชั่วโมง
ต้องขอขอบคุณ Benjamin Franklin
ผู้ริเริ่มและแนะนำความคิดนี้ในบทความปี
1784
การนำประโยชน์ของ Daylight
ในช่วง Summerมาใช้ประโยชน์
และประหยัดพลังงานเพื่อใช้ในช่วงที่จำเป็น
โดยการปรับเปลี่ยนเวลาให้สัมพันธ์กับฤดูกาลในธรรมชาติ
คิดได้ไงเนี่ย....230 ปีทีแล้ว
นายแน่มาก Franklin อัจฉริยะจริงๆ !!!
นายแน่มาก Franklin อัจฉริยะจริงๆ !!!