Sunday, January 15, 2012

Undercover Boss

คำว่า "undercover" มีความหมายตาม dictionary คือ Performed or occurring in secret หรือ Engaged or employed in spying or secret investigation ซึ่งพูดง่ายๆเป็นภาษาไทยก้อคือปลอมตัวนั่นเอง...

Undercover Boss เป็นรายการโทรทัศน์ของอเมริกา ซึ่งห่งเคยเปิดให้ดูครั้งนึง นอกจากห่งชอบแล้ว ยุ่นกับยีนก้อชอบรายการนี้มากเลย..

ลักษณะของรายการก้อเหมือนชื่อที่เค้าตั้งเลย... CEO ของบริษัทยักษ์ใหญ่ของเมกา เค้าจะปลอมตัวมาในรูปของพนักงานธรรมดาๆคนนึง...ปลอมได้เนียนมาก...ดูไม่ออกเลย...แต่ตอนหลังกลับไปเป็น CEO ก้อแบบดูดีมีชาติตระกูลเหมือนเดิมเลย...55555

แต่สิ่งที่บ้านเราดูแล้วชอบคือ เราได้เห็นชีวิตของคนที่นี่ ยุ่นหมายถึงทั้งเมกาและแคนาดา ชีวิตเค้าน่าจะคล้ายๆกัน ค่อนข้าง tough มากๆเลย  และเมื่อนายใหญ่ได้ลงมาสัมผัสของชีวิตคนทำงานเหล่านี้  ทำให้สะท้อนแง่คิดอะไรหลายๆอย่าง..และได้เห็นภาพหลายภาพชัดเจนขึ้น...

จริงๆแล้วยุ่นชอบทุกตอนที่ได้ดูเลย..แต่วันนี้จะขอเล่าเรื่องนึงเพื่อเป็นตัวอย่าง...

 CEO บริษัท Frontier Airline ของเมกาได้ปลอมตัวเป็นพนักงานใหม่เพื่อไปฝึกงานในแผนกต่างๆ..

แผนกแรก...พนักงานทำความสะอาดเครื่องบิน หลังจากเครื่องลงจอด และผู้โดยสารลงเครื่องหมดแล้ว..แต่เนื่องจากบริษัทนี้ มีเที่ยวการบินค่อนข้างมาก.วันละ 165 เที่ยว .ฉะนั้น..เครื่องที่ลงจอดนั้น  พนักงานทำความสะอาดมีเวลาเพียงเจ็ดนาทีในการ clean ทุกอย่าง และคนที่ทำความสะอาดมีเพียงคนเดียว..ไม่น่าเชื่อก้อต้องเชื่อ..เค้าจะทำงานเร็วมาก..แต่ฉากที่เราดูเนื่องจาก CEO มาทำด้วย จึงทำให้ทำงานได้ช้าลง...พนักงานก้อจะพูดเล่นหัวเราะ... Hurry! Hurry! Richard...แต่เค้าไม่ได้หัวเสียกับการสอนเพื่อนร่วมงานหรือที่เพื่อนร่วมงานทำงานช้าเลยนะ..

แผนกสอง...ไปทำงานตรงหน้า front ที่รับกระเป๋าผู้โดยสาร ชั่งน้ำหนัก..เสร็จก้อต้องไปข้างหลังเพื่อยกกระเป๋าออกจากเครื่องไปที่สายพาน  และตรงนี้ต้องนับกระเป๋าทุกใบแบบถูกต้องผิดพลาดไม่ได้เลย  หากพลาดแม้แต่ใบเดียว  หมายถึงเค้าจะ charge พนักงานคนนั้นเท่ากับจำนวนของผู้โดยสารบนเครื่องทั้งหมด...และงานนี้ CEO เราก้อลืมนับจำนวนกระเป๋า  จึงทำให้พนักงานหน้าซีดพอควร แต่สิ่งนึงที่ยุ่นเห็นเค้าไม่ว่าอ่ะ แปลกดี..แต่เค้าจะช่วยแก้ปัญหา  เพราะเวลามันมีน้อยมั้ง...เสร็จจากงานกระเป๋า ก้อต้องเข้าไปต้อนรับผู้โดยสารด้านหน้าอีก..ทั้งที่เหงื่อออกเต็มตัว..และอาจมีกลิ่นเหงื่อซึ่งหมายถึง image ของบริษัท

แผนกสาม..เป็น Flight Attendant ก้อต้องพยายามให้บริการลูกค้าตอนที่ลูกค้าขึ้นเครื่อง ช่วยยกกระเป๋าเก็บให้  และต้องพยายามให้ผู้โดยสารนั่งให้เรียบร้อยในเวลาที่จำกัด เพื่อเครื่องเรียบร้อยจะได้บินได้ ตรงนี้ CEO เราก้อไม่รู้เรื่อง ชวนผู้โดยสารคุย จนทำให้เพื่อนร่วมงานไม่ happy เท่าไร เพราะงานไม่เสร็จตามเวลาที่กำหนด..ซึ่งตัว CEO เมื่อรู้ตัวก้อรู้สึกแย่..และเค้าต้องเดินบริการลูกค้าด้วยอาหารน้ำดื่ม เหมือนเวลาเราขึ้นเครื่องแล้วพวก air hostess มาบริการพวกเรา...ซึ่งพวกนี้จะมีเวลากำหนด ว่าต้องเรียบร้อยภายในกี่นาที..



แผนกสี่..ต้องไปเป็นพนักงานที่ทำหน้าที่ดูดอุจจาระ ปัสสาวะของเครื่องบิน...ก้อเหมือนกับพนักงานทำความสะอาด วันนึงเที่ยวบิน 160 กว่าเที่ยว...ก้อดูดไป...เค้าจะมีท่อต้อเข้ากับด้านล่างของเครื่อง และหมุนวาล์วเปิดปิด..อันนึงเป็นอึ อีกอันเป็นฉี่  หากหมุนไม่ถูกหลัก ทุกสิ่งอย่างจะกระจายโดนพนักงานคนที่ทำ...ซึ่ง CEO เราก้อมือใหม่หัดขับ จึงมีการผิดพลาด..น้ำฉี่กระจายใส่ตัวเค้าเต็มไปหมด..


สิ่งหนึ่งที่ยุ่นได้เรียนรู้แน่ๆจากรายการนี้คือการทำงานของบริษัท airline เอย โรงแรมเอย resort เอย หรือบริษัทต่างๆที่มาเข้ารายการนี้ ทำให้เรามีความรู้ในหลายๆอุตสาหกรรม และเข้าใจว่าเบื้องหลังการถ่ายทำ..พนักงานเหล่านี้เค้าก้อมีความลำบากไม่น้อยเหมือนกัน...

และสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่ยุ่นได้เรียนรู้ก้อคือชีวิตมนุษย์...ซึ่งระหว่างที่ CEO ได้ทำงานในแต่ละงานที่เค้าปลอมตัวมา  งานเหล่านี้เป็นงานในระดับล่าง ซึ่งบางครั้งพนักงานเหล่านี้ได้ถูกละเลย ไม่สนใจโดยบริษัทเป็นระยะเวลานานแล้ว...ช่วงที่ CEO ทำงานกับพนักงานเหล่านี้ เค้าได้พยายามสอบถามข้อมูลต่างๆ..รวมทั้งได้เรียนรู้ชีวิตของพนักงานแต่ละชีวิต...เค้าเหล่านั้นต่างมีชีวิตที่ลำบาก  และตรากตรำทำงานส่วนมากก้อเพื่อลูกและครอบครัว...บางคนก้อมีปัญหาเรื่องสุขภาพ...บางคนทำงานจนไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว...ทำให้เราได้เห็นอีกหลายๆชีวิตที่ต้องดิ้นรนต่อสู้..และให้คิดว่า ชีวิตเราก้อยังโชคดีกว่าอีกหลายๆชีวิตบนโลกใบนี้...

หลังจากที่ CEO ได้ลงไปเจาะในสามสี่จุดนี้ ก้อทำให้เค้าเข้าใจในงานของพนักงานเหล่านี้ ซึ่งบางส่วนบริษัทอาจไม่เคยคิดถึงเรื่องความปลอดภัยของพนักงาน  หรือความลำบากในการทำงาน...และตอนนี้เพื่อนร่วมงาน flight attendant ได้บ่นกับ CEO ในตอน break ทำนองว่าเค้าไม่ได้คาดหวังจากบริษัทว่าจะให้เงินเค้ามากขึ้น แต่เค้ารู้สึกเสียใจที่บริษัทได้ตัดเงินพวกพนักงาน 10% เพื่อลดค่าใช้จ่าย...ซึ่งจุดนี้ทำให้ CEO หยุดคิด เพราะเค้า 10% ที่เค้าตัดเนี่ย มันอาจไม่กระทบต่อผู้บริหารระดับสูงของบริษัทหรอก...แต่สำหรับพนักงานระดับล่างที่ทำงานแบบหาเช้ากินค่ำแบบนี้  มันมีผลมาก...และพนักงานอีกคนที่ทำความสะอาดในเรื่องการดูดอึดูดฉี่ ก้อ complain เรื่องเงินที่บริษัทตัดไปเช่นกัน

หลังจากจบการปลอมตัว CEO ก้อเข้าที่ประชุมใหญ่ และได้พูดถึงปัญหาต่างๆที่บริษัทน่าจะต้องแก้ไขและช่วยพนักงาน  และรู้สึกซาบซึ้งกับการทำงานหนักของพนักงานระดับล่างอย่างไร..

และเค้าก้อเรียกพนักงานทั้งสี่ที่เค้าได้เจอเข้ามาคุย และมีการ promote ตามความเหมาะสม  บางคน CEO ก้อได้ให้เงินส่วนตัวช่วยเหลือครอบครัวนั้นๆ...หรือให้ทุนการศึกษาบ้าง หรือให้ไป train ต่อ  หรือให้ไปพักร้อนกับครอบครัว...ตรงนี้เนี่ย ยุ่นว่าเป็นอะไรที่ประทับใจยุ่นมาก...คือเค้าเห็นคุณค่าของพนักงานนั้นๆ...ซึ่งบางคนทำงานหนักแบบนี้มาเป็น 10 ปี...ยุ่นว่ามันเป็นรางวัลชีวิต และการทำแบบนี้ พนักงานจะรักบริษัท รู้สึกบริษัทไม่ทอดทิ้งเค้า...และเค้าจะยิ่งทุ่มเทในการทำงานมากขึ้น...

ยุ่นจึงแนะนำรายการนี้สุดๆเลย และหากต้องให้คะแนนก้อขอให้เต็มร้อยเลย...