คำว่า "undercover" มีความหมายตาม dictionary คือ Performed or occurring in secret หรือ Engaged or employed in spying or secret investigation ซึ่งพูดง่ายๆเป็นภาษาไทยก้อคือปลอมตัวนั่นเอง...
Undercover Boss เป็นรายการโทรทัศน์ของอเมริกา ซึ่งห่งเคยเปิดให้ดูครั้งนึง นอกจากห่งชอบแล้ว ยุ่นกับยีนก้อชอบรายการนี้มากเลย..
ลักษณะของรายการก้อเหมือนชื่อที่เค้าตั้งเลย... CEO ของบริษัทยักษ์ใหญ่ของเมกา เค้าจะปลอมตัวมาในรูปของพนักงานธรรมดาๆคนนึง...ปลอมได้เนียนมาก...ดูไม่ออกเลย...แต่ตอนหลังกลับไปเป็น CEO ก้อแบบดูดีมีชาติตระกูลเหมือนเดิมเลย...55555
แต่สิ่งที่บ้านเราดูแล้วชอบคือ เราได้เห็นชีวิตของคนที่นี่ ยุ่นหมายถึงทั้งเมกาและแคนาดา ชีวิตเค้าน่าจะคล้ายๆกัน ค่อนข้าง tough มากๆเลย และเมื่อนายใหญ่ได้ลงมาสัมผัสของชีวิตคนทำงานเหล่านี้ ทำให้สะท้อนแง่คิดอะไรหลายๆอย่าง..และได้เห็นภาพหลายภาพชัดเจนขึ้น...
จริงๆแล้วยุ่นชอบทุกตอนที่ได้ดูเลย..แต่วันนี้จะขอเล่าเรื่องนึงเพื่อเป็นตัวอย่าง...
CEO บริษัท Frontier Airline ของเมกาได้ปลอมตัวเป็นพนักงานใหม่เพื่อไปฝึกงานในแผนกต่างๆ..
แผนกแรก...พนักงานทำความสะอาดเครื่องบิน หลังจากเครื่องลงจอด และผู้โดยสารลงเครื่องหมดแล้ว..แต่เนื่องจากบริษัทนี้ มีเที่ยวการบินค่อนข้างมาก.วันละ 165 เที่ยว .ฉะนั้น..เครื่องที่ลงจอดนั้น พนักงานทำความสะอาดมีเวลาเพียงเจ็ดนาทีในการ clean ทุกอย่าง และคนที่ทำความสะอาดมีเพียงคนเดียว..ไม่น่าเชื่อก้อต้องเชื่อ..เค้าจะทำงานเร็วมาก..แต่ฉากที่เราดูเนื่องจาก CEO มาทำด้วย จึงทำให้ทำงานได้ช้าลง...พนักงานก้อจะพูดเล่นหัวเราะ... Hurry! Hurry! Richard...แต่เค้าไม่ได้หัวเสียกับการสอนเพื่อนร่วมงานหรือที่เพื่อนร่วมงานทำงานช้าเลยนะ..
แผนกสอง...ไปทำงานตรงหน้า front ที่รับกระเป๋าผู้โดยสาร ชั่งน้ำหนัก..เสร็จก้อต้องไปข้างหลังเพื่อยกกระเป๋าออกจากเครื่องไปที่สายพาน และตรงนี้ต้องนับกระเป๋าทุกใบแบบถูกต้องผิดพลาดไม่ได้เลย หากพลาดแม้แต่ใบเดียว หมายถึงเค้าจะ charge พนักงานคนนั้นเท่ากับจำนวนของผู้โดยสารบนเครื่องทั้งหมด...และงานนี้ CEO เราก้อลืมนับจำนวนกระเป๋า จึงทำให้พนักงานหน้าซีดพอควร แต่สิ่งนึงที่ยุ่นเห็นเค้าไม่ว่าอ่ะ แปลกดี..แต่เค้าจะช่วยแก้ปัญหา เพราะเวลามันมีน้อยมั้ง...เสร็จจากงานกระเป๋า ก้อต้องเข้าไปต้อนรับผู้โดยสารด้านหน้าอีก..ทั้งที่เหงื่อออกเต็มตัว..และอาจมีกลิ่นเหงื่อซึ่งหมายถึง image ของบริษัท
แผนกสาม..เป็น Flight Attendant ก้อต้องพยายามให้บริการลูกค้าตอนที่ลูกค้าขึ้นเครื่อง ช่วยยกกระเป๋าเก็บให้ และต้องพยายามให้ผู้โดยสารนั่งให้เรียบร้อยในเวลาที่จำกัด เพื่อเครื่องเรียบร้อยจะได้บินได้ ตรงนี้ CEO เราก้อไม่รู้เรื่อง ชวนผู้โดยสารคุย จนทำให้เพื่อนร่วมงานไม่ happy เท่าไร เพราะงานไม่เสร็จตามเวลาที่กำหนด..ซึ่งตัว CEO เมื่อรู้ตัวก้อรู้สึกแย่..และเค้าต้องเดินบริการลูกค้าด้วยอาหารน้ำดื่ม เหมือนเวลาเราขึ้นเครื่องแล้วพวก air hostess มาบริการพวกเรา...ซึ่งพวกนี้จะมีเวลากำหนด ว่าต้องเรียบร้อยภายในกี่นาที..
แผนกสี่..ต้องไปเป็นพนักงานที่ทำหน้าที่ดูดอุจจาระ ปัสสาวะของเครื่องบิน...ก้อเหมือนกับพนักงานทำความสะอาด วันนึงเที่ยวบิน 160 กว่าเที่ยว...ก้อดูดไป...เค้าจะมีท่อต้อเข้ากับด้านล่างของเครื่อง และหมุนวาล์วเปิดปิด..อันนึงเป็นอึ อีกอันเป็นฉี่ หากหมุนไม่ถูกหลัก ทุกสิ่งอย่างจะกระจายโดนพนักงานคนที่ทำ...ซึ่ง CEO เราก้อมือใหม่หัดขับ จึงมีการผิดพลาด..น้ำฉี่กระจายใส่ตัวเค้าเต็มไปหมด..
สิ่งหนึ่งที่ยุ่นได้เรียนรู้แน่ๆจากรายการนี้คือการทำงานของบริษัท airline เอย โรงแรมเอย resort เอย หรือบริษัทต่างๆที่มาเข้ารายการนี้ ทำให้เรามีความรู้ในหลายๆอุตสาหกรรม และเข้าใจว่าเบื้องหลังการถ่ายทำ..พนักงานเหล่านี้เค้าก้อมีความลำบากไม่น้อยเหมือนกัน...
และสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่ยุ่นได้เรียนรู้ก้อคือชีวิตมนุษย์...ซึ่งระหว่างที่ CEO ได้ทำงานในแต่ละงานที่เค้าปลอมตัวมา งานเหล่านี้เป็นงานในระดับล่าง ซึ่งบางครั้งพนักงานเหล่านี้ได้ถูกละเลย ไม่สนใจโดยบริษัทเป็นระยะเวลานานแล้ว...ช่วงที่ CEO ทำงานกับพนักงานเหล่านี้ เค้าได้พยายามสอบถามข้อมูลต่างๆ..รวมทั้งได้เรียนรู้ชีวิตของพนักงานแต่ละชีวิต...เค้าเหล่านั้นต่างมีชีวิตที่ลำบาก และตรากตรำทำงานส่วนมากก้อเพื่อลูกและครอบครัว...บางคนก้อมีปัญหาเรื่องสุขภาพ...บางคนทำงานจนไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว...ทำให้เราได้เห็นอีกหลายๆชีวิตที่ต้องดิ้นรนต่อสู้..และให้คิดว่า ชีวิตเราก้อยังโชคดีกว่าอีกหลายๆชีวิตบนโลกใบนี้...
หลังจากที่ CEO ได้ลงไปเจาะในสามสี่จุดนี้ ก้อทำให้เค้าเข้าใจในงานของพนักงานเหล่านี้ ซึ่งบางส่วนบริษัทอาจไม่เคยคิดถึงเรื่องความปลอดภัยของพนักงาน หรือความลำบากในการทำงาน...และตอนนี้เพื่อนร่วมงาน flight attendant ได้บ่นกับ CEO ในตอน break ทำนองว่าเค้าไม่ได้คาดหวังจากบริษัทว่าจะให้เงินเค้ามากขึ้น แต่เค้ารู้สึกเสียใจที่บริษัทได้ตัดเงินพวกพนักงาน 10% เพื่อลดค่าใช้จ่าย...ซึ่งจุดนี้ทำให้ CEO หยุดคิด เพราะเค้า 10% ที่เค้าตัดเนี่ย มันอาจไม่กระทบต่อผู้บริหารระดับสูงของบริษัทหรอก...แต่สำหรับพนักงานระดับล่างที่ทำงานแบบหาเช้ากินค่ำแบบนี้ มันมีผลมาก...และพนักงานอีกคนที่ทำความสะอาดในเรื่องการดูดอึดูดฉี่ ก้อ complain เรื่องเงินที่บริษัทตัดไปเช่นกัน
หลังจากจบการปลอมตัว CEO ก้อเข้าที่ประชุมใหญ่ และได้พูดถึงปัญหาต่างๆที่บริษัทน่าจะต้องแก้ไขและช่วยพนักงาน และรู้สึกซาบซึ้งกับการทำงานหนักของพนักงานระดับล่างอย่างไร..
และเค้าก้อเรียกพนักงานทั้งสี่ที่เค้าได้เจอเข้ามาคุย และมีการ promote ตามความเหมาะสม บางคน CEO ก้อได้ให้เงินส่วนตัวช่วยเหลือครอบครัวนั้นๆ...หรือให้ทุนการศึกษาบ้าง หรือให้ไป train ต่อ หรือให้ไปพักร้อนกับครอบครัว...ตรงนี้เนี่ย ยุ่นว่าเป็นอะไรที่ประทับใจยุ่นมาก...คือเค้าเห็นคุณค่าของพนักงานนั้นๆ...ซึ่งบางคนทำงานหนักแบบนี้มาเป็น 10 ปี...ยุ่นว่ามันเป็นรางวัลชีวิต และการทำแบบนี้ พนักงานจะรักบริษัท รู้สึกบริษัทไม่ทอดทิ้งเค้า...และเค้าจะยิ่งทุ่มเทในการทำงานมากขึ้น...
ยุ่นจึงแนะนำรายการนี้สุดๆเลย และหากต้องให้คะแนนก้อขอให้เต็มร้อยเลย...