เนื่องจากมิสแรนเจ้าของศูนย์ให้ยุ่นรับผิดชอบดูแลทั้งเลขและอังกฤษ โดยเฉพาะการ guide เด็กในเลขระดับสูงตั้งแต่ H ขึ้นไป และหากใครได้รู้จักแบบฝึกหัดคุมอง ก้อคงพอจะเข้าใจว่า จริงๆมันไม่ได้ยากมาก เพียงแต่คำอธิบายน้อยมาก โดยเฉพาะระดับสูง J up บางทีบรรทัดแรกเสร็จ อ้าว..บรรทัดสองมาจากไหนเนี่ย.. งง.. คุมองเค้าตั้งใจ skip ขั้นตอน เพราะเค้าต้องการจะ challenge เด็กว่ามันมาได้อย่างไร ให้เด็กลองคิดดู...ซึ่งส่วนใหญ่..เด็กจะคิดไม่ค่อยออกกัน เพราะบางเรื่องมันเป็นเรื่องของระดับก่อนโน้น ซึ่งส่วนใหญ่เด็กมักลืมไปแล้ว...
ฉะนั้น..ยุ่นก้อต้องคอยตอบปัญหาและย้อนความทรงจำเหล่านี้กับเด็กๆ และยุ่นเองก้อพยายามสอนให้เด็กดูตัวอย่างในกล่องสี่เหลี่ยมให้เข้าใจก่อนที่จะมาถามยุ่น...เพราะนั่นคือวัตถุประสงค์ที่แท้จริงในการเรียนคุมอง คือ Self Learning....แต่การเรียนรู้ด้วยตัวเอง หากไม่ฝึก ก้อคงไม่สามารถเกิดได้ง่ายๆเช่นกัน
และที่ศูนย์ก้อมีเด็กที่เรียนระดับ J up น่าจะไม่เกิน 20 คนมั้ง..นอกจากนี้ก้อเด็กระดับ G H I จำนวนหนึ่งเด็กพวกนี้เวลามาเรียน เค้าจะเดินมาหายุ่นเลย และบอกยุ่นตรงๆว่าเค้าต้องการความช่วยเหลือ หลังจากที่ยุ่นได้อธิบายจนเค้าเข้าใจและทำได้ ซึ่งตรงนี้ยุ่นคิดว่าสำคัญคือหลังอธิบายเสร็จ ยุ่นจะต้องดูเด็กทำงานจนมั่นใจว่าเด็กเข้าใจในสิ่งที่เราอธิบายจริงๆ ยุ่นจึงจะปล่อยเด็ก....(อันนี้ก้อเป็นตั้งแต่อยู่ที่ไทยแล้ว :)
หลายครั้ง..หลังสอนเด็กให้เข้าใจแบบฝึกหัดคุมอง หากดูว่าเด็กมีแววรับต่อได้ ยุ่นจะให้เทคนิคคิดเร็วกับเด็ก ยุ่นจะบอกว่ายุ่นไม่ได้คิดแบบนี้นะ ยุ่นใช้เทคนิคแบบนี้นะ ถ้าสนใจจะลองเอาไปใช้ดูก้อได้ มันจะเร็วและง่ายกว่า เด็กหลายคนก้อชอบ และลองเอาไปใช้
มีอยู่ครั้งหนึ่ง Patrick Guy เด็กนักเรียนเรียนระดับ J ถามยุ่นว่า ช่วยบอกวิธีลัดในการแยก factor ได้มะ ตรง J41 ซึ่งมันค่อนข้างยาก ยุ่นก้อบอกเค้าตรงๆว่าไม่มีเทคนิค แต่หลังจากที่คุณจัดทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทางแล้ว คุณต้องรู้จักสังเกตุ และเอาตรงนี้มาเป็นเทคนิคในการแยกตัวประกอบ ก้อบอกเค้าว่ายุ่นมีวิธีดูยังไงและลองให้เค้าทำเอง พอเค้าได้ลองทำและเข้าใจ เค้าก้อทำได้เอง แม้นว่าชุดนี้จะยากแค่ไหน เค้าก้อไม่มาถามยุ่นอีกเลย.. Patrick เป็นเด็กญี่ปุ่น..อยู่เกรด 8 เป็นคนจริงจัง..สุขุม เงียบ ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าวัยของเค้าอ่ะ .คือว่ามีวันหนึ่งเค้าไม่มาเรียน เค้าให้พ่อมาเอาการบ้านที่ศูนย์ พ่อเค้าก้อมาถามหาสุวรรณี และบอกว่า Patrick ฝากให้มาถามว่าข้อนี้ตอบแบบนี้ได้มั้ย พ่อเค้าก้อชี้ไปที่แบบฝึกหัด J หน้าหนึ่งที่ Patrick ตอบ ยุ่นบอกได้ พ่อเค้าบอกว่า ผมก้อบอกเค้าว่าได้ แต่เค้าไม่เชื่อผม เค้าบอกว่าให้มาถามสุวรรณีอีกครั้งหนึ่ง ว่าสุวรรณีว่าไง......เล่นเอายุ่นยิ้มไม่ค่อยออกเลย..แหะ..แหะ..
วิธีการที่ยุ่น guide หรือสอนเด็กจะเป็นแนวนี้มาโดยตลอดตั้งแต่วันแรกที่ยุ่นเข้าใจคุมอง..(.ขอเน้นไม่ได้วันแรกที่ทำคุมองนะค่ะ เพราะตอนแรกยังทำด้วยไม่เข้าใจ....) จนถึงวันนี้ และคุมองที่แคนาดาก้อเช่นกัน ยุ่นก้อได้ guide และให้เทคนิคต่างๆ ทั้งเด็กหญิงเด็กชาย แต่ในบรรดาเด็กเหล่านี้ จะมีเด็กผู้ชาย 3-4 คนที่เรียนระดับ J up อันนี้ก้อรวม Patrick ด้วย. และก้อมีเด็กผู้หญิง 2-3 คนแต่ประมาณ H , I ..อึม..ก้อน่าจะอยู่ระดับ high school ที่นี่นะ...( Patrick, Tristan, Andrew, Aaron , Crystal , Jyoti ) พอเราสอนเสร็จเราก้อต้องดูเด็กคนอื่นๆต่อตามหน้าที่ของเรา ขณะที่ยุ่นกำลัง guide เด็กคนอื่น เด็กพวกนี้พอเค้าทำงานเสร็จและกำลังจะกลับบ้าน ก่อนกลับ... เค้าจะเดินตรงมาหายุ่นทุกครั้ง และพูดกับยุ่นว่า " Suwannee , Thank you so much! " น้ำเสียงและท่าทางที่เด็กเหล่านี้แสดงออกมาคือแบบขอบคุณเราจากใจจริง....หลายครั้ง..ยุ่นเองกำลังสอนก้องง..งง บางครั้งก้อลืมพูด..You're very welcome...เพราะสมองกำลังคิดเลข กำลังสอน แต่ยุ่นก้อรู้ได้ถึงความตั้งใจของพวกเด็กๆ...และก้ออดโกรธตัวเองไม่ได้...ทำไมต้องงงตอนนั้นด้วยนะ...
สิ่งเล็กๆน้อยๆที่เรียกว่าคำขอบคุณที่เด็กเหล่านี้แสดงออกมาอย่างสม่ำเสมอทุกๆครั้งที่เค้ามาเรียนคุมอง....ยุ่นเองไม่ได้คาดหวังและคิดว่าเราเองมีหน้าที่ที่จะต้องถ่ายทอดความรู้ให้เด็กๆ เราก้อทำในส่วนของเราให้ดีที่สุด ...แต่การที่เด็กๆเหล่านี้ตั้งใจเดินมาหายุ่นและกล่าวคำขอบคุณจากหัวใจเล็กๆของเค้า มันมีความหมายกับความรู้สึกของยุ่นมาก... ทั้งความกตัญญูรู้คุณซึ่งเป็นพื้นฐานที่ดีและอยู่ในตัวเด็กๆเหล่านี้ และความรู้สึกปลื้มใจ ชุ่มชื่นหัวใจ และรู้สึกว่าตัวเรามีคุณค่าในงานที่เราทำไม่น้อยเลย..^^