จำได้ว่าเคยมีผู้ปกครองที่เป็นรุ่นพี่เภสัช เคยคุยกับยุ่นว่า "ยุ่นกับพี่นี่เราต่างกันจริงๆ..ยุ่นชอบปั้นดินให้เป็นดาว แต่พี่ชอบปั้นดาวให้เป็นดาวค้างฟ้า"....สำหรับยุ่นการปั้นดินให้เป็นดาว ไม่เพียงแค่เด็กคนหนึ่งซึ่งเคยไม่รักไม่ชอบเลข เปลี่ยนเป็นรัก ชอบ ทำคะแนนได้ดี แต่ยุ่นคิดว่ามากกว่าด้านวิชาการยุ่นได้เปลี่ยนข้างในของเด็กจากคนที่ไม่มั่นใจ กลายเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง และเด็กเองเค้าก้อได้เรียนรู้สัจจธรรมจากตัวเค้าเองว่า..."ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้หากเรามีความพยายามที่จะทำสิ่งนั้นๆด้วยความตั้งใจจริง..."
และวันนี้...จากการที่ได้ทำคุมอง 7 ปีที่เมืองไทย บวกอีก 5 ปีในแวนคูเวอร์ เสริมด้วยการได้สอนพิเศษเลขเด็กนักเรียนเป็นรายบุคคล... ยุ่นได้สังเกตุ ได้เรียนรู้จากเด็กๆในหลายๆมุม ทำให้ยุ่นค่อยๆพัฒนาทักษะในการสอนคณิตศาสตร์มากขึ้นมากขึ้นทุกๆวัน...ตอนทำคุมองที่ไทย..มีนักเรียนคนหนึ่งย้ายมาเรียนที่ศูนย์ยุ่น เนื่องจากคุณแม่บอกว่าเรียนที่ศูนย์อื่นมานานแล้วไม่รู้สึกว่าดีขึ้น...จำได้ว่าทีแรก..ยุ่นก้อยังหาสาเหตุไม่เจอ แต่สังเกตุว่าทำไมเด็กเวลาทำงานที่ศูนย์งานผิดมาก แต่การบ้าน perfect เลยลองคุยกับคุณแม่...คุยมาคุยไปได้ความว่า แม่คิดว่าการทำการบ้านทุกวัน ต้อง perfect สมบูรณ์แบบถูกหมด 100% ทั้งหมดทุกแผ่น พอลูกทำผิด แม่ก้อลบทิ้งทั้งชุดและให้ทำใหม่หมด....เป็นอย่างนี้เรื่อยมาตั้งแต่เรียนคุมอง
ยุ่นอึ้งไปนิดนึงและบอกคุณแม่ว่า ขอให้เลิกทำแบบนี้ การลบทั้งชุดคือการลบความมั่นใจของเด็กลงไปทุกๆวัน นั่นจึงเป็นเหตุว่าทำไมน้องไม่เชื่อมั่นในตัวเองเวลาทำเลข แต่อังกฤษน้องไม่เป็น เพราะแม่รู้สึกลูกไม่เก่งเลข แต่เก่งอังกฤษ จึง focus ในวิชาเลขมากเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ ประโยคคลาสสิคที่แม่ชอบพูดเสมอก้อคือ..ลูกไม่เก่งเลข ลูกไม่เก่งเลข เลยยิ่งทำให้ลูกฝังใจว่าใช่ เราไม่เก่งเลข ก้อแม่เราบอกว่าเราไม่เก่งเลข....แล้วเราจะเก่งเลขได้ยังไง...
หลังจากนั้น ยุ่นก้อพยายามแก้ปัญหา โดยหลักๆ แม่เพียงดูให้ลูกทำการบ้านทุกวัน ครบถ้วนลงเวลา จากนั้นไม่ต้องสนใจความถูกผิด ครุยุ่นจะเป็นคนจัดการเอง เพราะครูจะได้รู้ว่าเด็กมีปัญหาอะไรที่เราต้องแก้ หากมาแบบถูกหมด ก้อไม่มีอะไรให้แก้ไข และยุ่นก้อค่อยๆแก้ไขจุดอ่อนในเรื่องคณิศาสตร์ของน้อง บวกกับการชมให้กำลังใจเมื่อน้องทำงานได้ดี...ทำให้น้องค่อยๆมีพัฒนาการดีขึ้นเรื่อยๆ...
ผลที่ตามมากคือ หลังจากเรียนไปประมาณ 2 ปีมั้ง..จากคะแนนเลขที่น้องเคยได้ C ก้อค่อยๆเลื่อนมาเป็น B และ A ตามลำดับ และช่วงหลังเห็นบอกได้ที่หนึ่งของห้องเลย หมายถึงรวมทุกวิชาเลยนะ และทุกวันนี้ น้องก้อเรียนที่เตรียมอุดม พญาไท (ม.ปลาย) แต่เรียนทางด้านศิลปภาษา เพราะน้องไม่ได้ชอบวิชาเลขเท่าไรนัก แต่สำหรับวิชาเลขคะแนนก้อถือว่าไม่โหลยโถย..เป็นที่น่าพอใจ..^^
สำหรับครูยุ่น..ครูยุ่นคิดว่าไม่จำเป็นที่เด็กทุกคนที่เรียนเก่ง ต้องเรียนสายวิทย์เพื่อเป็นแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัช วิศวะ หากเรามีความโดดเด่นหรือชอบทางด้านไหน เราก้อสามารถเลือกเส้นทางที่เราถนัด และประสบความสำเร็จในสาขาวิชาชีพอื่นๆได้เช่นกัน...
กรณีถัดมายุ่นได้จากนักเรียนที่สอนพิเศษ. น้อง Net มาปรึกษาครูยุ่นว่าปีหน้าคือตอนนี้แล้วนะค่ะ ต้องเรียนเลข 2 ตัวคือ Pre Calculus 12 กับ Calculus 12 ทีแรกครูยุ่นฟังก้อแบบรู้สึกมันจะหนักเกินไป ก้อไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไรนัก แต่เนื่องจาก Net มีความมุ่งมั่นอยากเรียนอย่างจริงจัง...เราในฐานะที่เป็นครู ก้อต้องสนับสนุน และอีกอย่าง Net ยังไม่ได้เรียน ครูยุ่นจะรู้ได้ไงว่า Net จะทำไม่ได้...ครูยุ่นไม่ควรคิดเอง สรุปเอง...555
เอาไงเอากัน..ลองดูสักตั้ง..ครูยุ่นก้อมานั่งคิด วางแผนว่าเราจะสอน Net อย่างไรที่จะให้Net สามารถเรียนได้ทั้งสองตัวในปีหน้าแบบไม่ลำบากเท่าไร.....ครูยุ่นเริ่มนั่งวางแผนการเรียนแบบว่าหัวข้อต่างๆที่เด็กต้องเรียน โดยคิดว่าในช่วง Summer เราควรเรียนจบ Pre Cal 12 ให้ได้ เพราะมันคือพื้นฐานของ Calculus อีกทั้งเปิดเทอม เราจะได้ focus ไปที่ Cal 12 และหาก Pre Cal มีปัญหาเป็นจุดๆ เราก้อพอช่วยได้ แต่หากเรียนสองตัว อาทิตย์ละ 1 ชั่วโมงครึ่ง สงสัยจะเรียนค่อนข้างลำบาก และเกรงว่าผลออกมาไม่น่าจะดีเท่าที่ควร...
ก้อเลยลอง Copy Paste ความคิดของครูที่นี่ คือครูที่นี่ทุกวิชา เค้าจะมีใบมาเลยในวันแรกที่เราเรียน ว่าเค้าจะสอนอะไรเรา topic อะไร วันไหน quizเมื่อไร test เมื่อไร ครูยุ่นก้อเลยลอง apply และ Set เป็นตารางการเรียนขึ้นมา มีหมายกำหนดการที่ชัดเจนว่าจะเรียนอะไร ใช้เวลาอย่างไรและจบเมื่อไร
และแล้วปิด summer ที่ผ่านมา เราสองคนทั้งครูทั้งนักเรียนก้อลุยด้วยกัน จนกระทั่งอาทิตย์สุดท้าย เนื่องจาก Net ต้องไปเที่ยวกับครอบครัวหนึ่งอาทิตย์ เลยทำให้หลุดเป้าที่ตั้งไว้ไปนิดนึง เรียนได้ 95%ของที่ตั้งไว้ อีก 5 % คือช่วงหลังของตรีโกณซึ่งไม่ยากมากเท่าไรนัก ไม่ได้เรียน...
ที่เค้าพูดกันว่า "วางแผนดี มีชัยไปกว่าครึ่ง" อันนี้พิสูจน์ได้เต็มๆ.. เปิดเทอม Net เรียนเลข 2 ตัวนี้ได้แบบค่อนข้างสบาย.. เพราะตัวหนึ่งเรียนมาเกือบหมดแล้ว Pre-cal 12 จึงเหมือน review ฉะนั้นตัวที่ครูยุ่นต้องสอนจริงๆคือ Calculus ซึ่งครูยุ่นก้อจะพยายามสอนล้ำหน้าโรงเรียนให้ได้..เพื่อ Net จะได้เติมเต็มในห้องเรียน....
สิ่งที่ได้จาก Net คือการทำให้ครูยุ่นต้องวางแผนการสอนแบบเป็นรูปแบบมากขึ้น มีเป้าหมายที่แน่ชัด และ Calculus 12... Net ก้อเป็นนักเรียนคนแรกที่ครูยุ่นได้มีโอกาสสอน ก้อเรียกว่าท้าทายมากๆ ทั้งการวางแผน การเตรียมตัวสอน...การพยายามศึกษาค้นคว้าและพัฒนาตัวเราอยู่ตลอดเวลา...ทำให้สมองครุยุ่นไม่หยุดนิ่งจริงๆ...^^
กรณีสุดท้ายได้จากการสังเกตุแนน ขิม ขวัญ ตอนมาเรียนพิเศษช่วง summer และได้รู้ว่าที่นี่ (หมายถึงใน British Columbia ก้อแล้วกัน เพราะสรุปทั้ง Canada คงไม่ได้ ) ไม่ได้สอนให้เด็กท่องสูตรคูณ และได้ลองสังเกตุเด็กนักเรียนที่ศูนย์คุมองก้อเช่นกัน เด็กจะมีปัญหาในการทำคูณกับหารมากๆ เนื่องจากสูตรคูณไม่คล่อง...โดยหากปล่อยให้เด็กทำเอง ไม่อธิบาย เด็กจะทำโดยการบวกทบไปเรื่อยๆ เช่น 48x3 เด็กก้อจะ 48+48+48 จนได้คำตอบ แต่ปัญหามันอยู่ที่ หาก 48x9 หละ จะบวกกันเสร็จเมื่อไร...ครูยุ่นก้อได้คิดวิธีที่จะทำให้ขิม ขวัญ สามารถท่องสูตรคูณได้แม่นยำมากขึ้น ซึ่งสามารถช่วยในเรื่องการบวกลบคูณหารไปด้วยกันหมด...แต่เด็กที่ศูนย์ ก้อได้แต่สอนว่าคิดอย่างไร ดูให้เด็กๆมีความเข้าใจที่ถูกหลักการ.. และรายงานมิสว่าเด็กไม่คล่องสูตรคูณ แต่มิสจะปรับแบบฝึกหัดอย่างไรนั้น อันนี้เกินกำลังที่ครูยุ่นจะช่วยเด็กๆเหล่านั้นได้ ครูยุ่นเองก้อได้แต่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้เด็กๆ เพื่อให้เด็กสามารถทำแบบฝึกหัดเสร็จ และกลับบ้านได้...
จริงๆครูยุ่นมีมากมายหลายกรณีศึกษาของเด็กนักเรียน ซึ่งก้อจะมีวิธีการแก้ปัญหาที่แตกต่างกันไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ยุ่นคิดว่ายุ่นชอบคิด ชอบสงสัย และมักเกิดคำถามขึ้นในหัว..จึงทำให้ยุ่นพยายามที่จะหาคำตอบให้กับตัวเอง พยายามแก้ปัญหาให้ได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สำหรับยุ่นไม่ใช่สิ่งที่น่าเบื่อ แต่เป็นสิ่งที่สนุก ท้าทาย....และภูมิใจทุกครั้งที่สามารถแก้ปัญหาได้ หรือได้เห็นพัฒนาการที่เปลี่ยนไปของลูกศิษย์...
ล่าสุด...เข็ม..พี่ชายขิม ขวัญ เรียนกับครูยุ่นมา 2 ปีกว่าหละ จำได้วันแรกมาเลขเข็มได้ C แต่วันนี้เกรด 10 อยู่ Honor Program ( คงคล้ายๆ gifted ของบ้านเรา) report card ออกมาล่าสุดได้เลข 96 % เข็มบอกครูยุ่นด้วยความภาคภูมิใจ ซึ่งครูยุ่นก้อภูมิใจในตัวเข็มไม่น้อยไปกว่าคุณพ่อคุณแม่และเข็มเช่นกัน และเหนือสิ่งอื่นใดคือความสนใจ ความใส่ใจในวิชาคณิตศาสตร์ที่มากขึ้น และพัฒนาการทางด้านคณิตศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเด่นชัดของเข็ม... เป็นสิ่งที่ครูยุ่นปลื้มมาก...
ตามมา..เป็นกระแสเล็กๆ น้องฟ้า เกรด 9..เพิ่งเรียนกับครูยุ่นได้ประมาณ 3 เดือนกว่า แต่มี attitude กับวิชาคณิตศาสตร์เปลี่ยนไป จากเดิมรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่ง ไม่ชอบ แต่ตอนนี้ฟ้ารู้สึกเริ่มชอบ..... ได้ chocolate เป็นรางวัลจากครูที่โรงเรียนเนื่องจากสามารถคิดเลขได้เร็วเป็นพิเศษ..^^ และคิดว่าการจะเก่งในวิชาคณิศาสตร์ไม่น่าจะยากเท่าไรนัก....ครูยุ่นก้อขอเป็นกำลังใจให้น้องฟ้า และเชื่อว่าฟ้าทำได้แน่นอน...หากมีความพยายาม...^^
และนี่ก้อเป็นส่วนหนึ่งในการปั้นดินให้เป็นด่าว... งานที่คนปั้นต้องมีทั้งความตั้งใจ ความอดทน ความพยายามในการพัฒนารูปแบบ และรอคอยผลงานที่เราปั้น...ว่าสักวันหนึ่ง...ดินเหล่านี้จะได้เป็นดาวฤกษ์ที่สามารถส่องสว่างด้วยตัวเอง...:)