อาทิตย์ที่แล้วที่แวนคูเวอร์เป็นช่วง spring break น้องยีนก้อได้หยุดเรียนหนึ่งอาทิตย์ เลยถือโอกาสช่วงนี้บินไปเที่ยวโตรอนโต และเยี่ยมครอบครัวกิตตานันทวงษ์ตามคำเชิญของคุณลี่... ครอบครัวเรารู้สึกประทับใจครอบครัวนี้มากๆเลย...
ย้อนนึกไปเมื่อสี่ปีที่แล้ว... ทาทาเจ้าตัวเล็กสุดตอนที่มาลาครูยุ่นเค้าอยู่ปอสามหรือปอสี่อะไรประมาณนี้ ยังตัวเล็กๆอยู่เลย ทีนก้อตัวยังไม่ถึงไหล่ครูยุ่น แทมมี่ก้อตัวผอมๆ ก้อไม่สูงมาก มีทันทันที่จำได้ว่าตัวสูงกว่าครูยุ่น แล้วก้อดูจะเป็นสาวที่สุดในสี่สาว..
..เวลามันผ่านไปตั้งสี่ปี คิดๆก้อเร็วเหมือนกัน.. ไม่ได้เจอะเจอหน้ากันเลย พอได้เจอกันครั้งแรก เล่นเอาครูยุ่นก้องงเหมือนกัน เพราะถ้าหากเดินสวนกันข้างนอก ก้อไม่แน่ใจว่าจะจำสาวๆได้มั้ยเนี่ย.....
ทันทันก้อยังคล้ายเดิม คนนี้ถ้าเจอกัน จำได้แน่ๆ... แต่ก้อตัวโตขึ้นมาก สูงใหญ่แบบฝรั่ง ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นด้วย ในด้านความคิด ความรับผิดชอบ และยังคงเก่งเหมือนเดิม... และทันทันก้อยังคงเป็นพี่ที่น้องๆนับถือ ทึ่งและยอมรับเสมอ...
แทมมี่ก้อไม่อ้วนขึ้นแต่ก้อไม่ผอมมากเหมือนแต่ก่อน และที่สำคัญดูสวยขึ้นเป็นสาวขึ้น ดูเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น คุยเก่งมากกว่าเดิมอีก....ดูเป็นเด็กวัยรุ่นที่หน้าตาน่ารักสดใส..คล้ายสาวเกาหลี แต่แทมมี่บอกว่าไม่เอา ไม่อยากเป็นสาวกาหลี..แทมมี่ค้นพบตัวเองว่ามีความถนัดในเรื่องศิลปะ และก้อมุ่งมั่นที่จะเรียนทางด้านนี้.....ซึ่งสิ่งนี้ทำให้แทมมี่มีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และนี่ก้อคือข้อดีของระบบการศึกษาที่นี่ ที่ทำให้เด็กสามารถค้นพบตัวเองได้...
ทีนทีน...จำได้แม่นเลย เรียนกับครูยุ่นตั้งแต่ปอหนึ่งอะไรประมาณนี้ คือเล็กมาก เป็นเด็กที่แก่น ซน ซ่าส์ หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู เสียงดังด้วย..วันแรกที่มาเรียนจำได้เลือดกำเดาเธอไหล ครูยุ่นต้องจัดเก้าอี้ทำเป็นเตียง แล้วให้ทีนทีน นอนหงายขึ้น แต่วันนี้ทีนทีนของเรา กลายเป็นสาวเปรี้ยว สวยมากๆ เหมือนดาราเลยแหละ...สูง ผอม หน้าตาก้อแบบหวานมากเลย แต่ถ้าดูไปนานๆก้อมีเค้าเดิม แต่เรียกว่าต้องนั่งดูนานๆ เพราะเป็นคนที่เปลี่ยนมากสุดเลย..และที่สำคัญ คุยไม่เก่งเหมือนแต่ก่อน...ดูมีมาด มีฟอร์ม แต่ก้อยังคงความน่ารักในสไตล์ของทีนทีน
ทาทา...น้องเล็กคนสุดท้อง..อึม..เรียนกับครูยุ่นน้อยที่สุด น่าจะแค่สามปี เพราะี่พี่ๆสามคนมาเรียนพร้อมกัน เรียนประมาณห้าปี... รู้สึกทาทามาเรียนตอนปอสอง แล้วก้อเจ้าเล่ห์ ไม่ค่อยยอมทำการบ้าน ก้อเรียกว่าต้องหลอกล่อทาทาอยู่หลายกระบวนท่าที่จะให้ทำการบ้านคุมอง ปรากฏว่าทาทาเป็นคนเดียวที่ตอนนี้อยากเรียนคุมองต่อ ทาทาอยากได้คะแนนเลขดีกว่านี้ อย่างไรก้อตาม ที่โรงเรียนทาก้อไม่มีปัญหา อีกอย่างที่ประทับใจทาทาก้อคือ ทาทาจะเป็นเด็กที่เวลาพูดอะไรแล้วดูใสใส ฟังแล้วได้ความรู้สึกดี และได้มีโอกาสอ่านการบ้านภาษาอังกฤษของทาทา ที่เป็น paragraph นะ รู้สึกทาทาเขียนได้ดีมาก..คิดว่าหากทาทาอยู่เกรด 11-12 ทาทาต้องเขียน writing ดีมากๆแน่เลย...
แทม ทีน ทา สามคนพอเจอครูยุ่นก้อพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า ทำไมครูยุ่นตัวเล็กลง ตอนเรียนคุมองนะ พวกหนูรู้สึกครูยุ่นตัวสูงจังแล้วพวกหนูก้อตัวเล็กนิดเดียว แต่ตอนนี้ทุกคนสูงกว่าครูยุ่นหมดเลย...ก้อเลยดูเหมือนครูยุ่นตัวหดไปอะไรทำนองนี้็.......
นี่ก้อเป็น scene แรกที่ได้เจอสี่สาวหลังจากเราไม่เจอกันมาสี่ปีเต็ม...
Wednesday, March 17, 2010
Friday, March 5, 2010
วันปิดงานโอลิมปิคที่แวนคูเวอร์
วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2010 เป็นวันปิดงาน Winter Olympic และที่สำคัญก้อคือวันนี้ตอนเที่ยง มี match สำคัญคือ Hockey คู่เด็ด Canada vs. USA. ชิงเหรียญทอง
จริงๆแล้วอเมริกากับแคนาดาได้เจอกันไปแล้วครั้งหนึ่ง และรอบนั้นอเมริกาชนะแคนาดา 5 ต่อ 3 จำได้วันนั้นคนแวนคูเวอร์เศร้ากันทั้งเมือง แบบอเมริกาก้อเหมือนคู่รักคู่แค้นเนอะ...แล้วกีฬา hockey ก้อเป็นอะไรที่ชาวแคเนเดี่ยนคลั่งไคล้กันมาก....
แต่บังเอิญทั้งคู่ชิงกันไปชิงกันมา ก้อมาเจอะกันอีกครั้งในรอบสุดท้าย คือรอบชิง...และวันนั้นก้อเป็นวันปิดงานของกีฬาโอลิมปิคด้วย...จำได้ว่าวันนั้นยุ่นต้องสอนพิเศษบีบี ก้อเลยบอกให้เค้ามาเรียนเช้าหน่อย เสร็จเที่ยงจะได้ดู Hockey คู่เด็ดคู่นี้ ยังไงก้อต้องดู จริงๆไม่เคยดูเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรก..
ปรากฏว่า เป็นคู่เด็ดจริงๆ สมกับที่รอคอย...เป็นคู่ที่เฉือนกันไม่ลงจริงๆ hockeyเค้าจะเล่นกันสามเกมส์ๆละยี่สิบนาที เปิดเกมส์มาแคนาดายิงนำ 2-0 เสร็จอเมริกายิงตามมาเป็น 2-1 ในเกมส์สุดท้ายเราก้อคิดว่าแคนาดาชนะแน่ๆแล้ว เพราะแคนาดาเค้าก้อจะเล่นแบบป้องกันประตูเค้า ไม่บุก ในขณะที่ไอ้กันมันก้อบุกเอาบุกเอา...เหลือเชื่อมากๆก้อคือ นาทีสุดท้ายของเกมส์สาม อเมริกายิงได้อีกหนึ่งประตู...กลายเป็นเสมอ 2-2
และนั่นแหละ คนแคนาดาทั้งประเทศกร๋อยเลย ซึมเลย..คือเห็นๆว่าชนะแน่ๆ กลายมาเป็นเสมอกัน ต้องต่อเวลาอีกยี่สิบนาที และถ้าใครยิงเข้าก่อน ก้อชนะเลย Golden Goal... นั่นเอง..
เราก้อดูกันด้วยใจหวั่นๆ เสียวมากเลยว่าอเมริกาจะชนะ...ปรากฏประมาณนาทีที่เจ็ดกว่า เบอร์ 87 Sidney Crosby ของแคนาดายิงเข้าเฉยเลย....พวกแคนาดาก้อโห่ร้องกันทั้งประเทศ เราอยู่บ้านยังโห่ร้องเลย...แบบดีใจเนอะ...เสร็จทีแรกเราก้อไม่รู้ว่ามันคือ golden goal ก้อรอดู ทำไมไม่เล่นต่อเนี่ย ทำไมพวกนักกีฬาแคนาดามันกอดกันนานจัง แล้วนักกีฬาอเมริกาก้อแบบนิ่ง ไม่ขยับเลย...ซึมอยู่ในท่าเดิม ยุ่นก้อเลยบอกว่าสงสัยเกมส์แล้วแน่เลย...แล้วก้อจริงๆ...แคนาดาชนะ... 3-2 Crosby กลายเป็น hero ของแคนาดาไปทันทีเลย...
จากนั้น ยุ่นกับฮ่งก้อต้องไปซื้อกับข้าวกัน พอออกไปขึ้น Canada line ปรากฏคนโห่ร้องกันทั้งเมือง กดแตรกันใหญ่เลย...แล้วก้อจะมีกันมาเป็นกลุ่มๆเลยนะ ใส่ชุดแดงของแคนาดา เสื้อ หมวก ธง ต่างๆ เดินร้องไปตามถนน ดีใจกันทั้งเมือง ไอ้เราก้อเลยอยากรู้ว่า downtown เป็นไงบ้าง ก้อเลยนั่ง Canada line ตามไปดูหน่อย...
ตอนรถจอดเทียบที่ชานชาลา พอประตูเปิดปั๊บ เสียงโห่ร้องดังออกมาจากในรถ ทุกคนหัวเราะยิ้มแย้มกัน จากนั้นอยู่ในรถเค้าก้อร้องเพลงชาติกัน พอดีเรายังร้องไม่เป็น แต่เห็นพวกเค้า ได้ยินพวกเค้าร้องเพลง รู้สึกว่าน่ารักมากๆเลย เราดูเรายังอดภูมิใจในพวกเค้าไม่ได้เลย...ทำไมถึงพร้อมใจกันออกมา โห่ร้องแสดงความดีใจกันขนาดนี้เลย...และทุกครั้งที่รถจอดป้าย พอผู้โดยสารใหม่ขึ้นมาก้อโห่ร้องกันแบบนี้กันทั้งคันรถ ร้องเพลงกัน และก้อมีคนแคนาดามากมาย บัันทึกภาพความประทับใจนี้ไว้ในบนแผ่นฟิล์ม และวีดีโอของเค้า...
จากนั้น เราก้อลงรถกันที่ downtown ปรากฏภาพที่เราเองก้อไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต คนบนถนนเยอะมั่กๆๆๆ สีแดงกันทั้งเมือง โห่ร้อง กดแตร ลั่นเมือง ผู้คนเจอกันเอามือตบกัน...เฮกันทั้งเมือง เค้าเดินกันมาจากทางสนาม hockey และโห่ร้องกันมาตลอดทาง โบกสะบัดธงกัน...ไม่ได้มีการจลาจลนะ เป็นการฉลองชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ของแคนาดา เพราะตั้งแต่เล่นโอลิมปิคมา ปีนี้แคนาดาได้เหรียญทองมากสุดถึง 14 เหรียญ และเหรียญสุดท้ายเป็นเหรียญศักดิ์ศรีระหว่างอเมริกากับแคนาดา...เพราะฉะนั้น...คน canadian จึงมีความสุขกันมากๆเลย...ยุ่นคิดว่าลึกๆพวกแคนาดาก้อคงไม่ค่อยชอบอเมริกาเท่าไรนัก...
และนี่ก้อเป็นภาพบรรยากาศในวันนั้น ที่ยุ่นคิดว่าคงต้องบันทึกเอาไว้ เพราะต้องขอบอกว่าคงเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้เจอภาพเหตุการณ์แบบนี้....ภาพเหตุการณ์ที่ประทับใจยุ่นมากๆเลย..
จริงๆแล้วอเมริกากับแคนาดาได้เจอกันไปแล้วครั้งหนึ่ง และรอบนั้นอเมริกาชนะแคนาดา 5 ต่อ 3 จำได้วันนั้นคนแวนคูเวอร์เศร้ากันทั้งเมือง แบบอเมริกาก้อเหมือนคู่รักคู่แค้นเนอะ...แล้วกีฬา hockey ก้อเป็นอะไรที่ชาวแคเนเดี่ยนคลั่งไคล้กันมาก....
แต่บังเอิญทั้งคู่ชิงกันไปชิงกันมา ก้อมาเจอะกันอีกครั้งในรอบสุดท้าย คือรอบชิง...และวันนั้นก้อเป็นวันปิดงานของกีฬาโอลิมปิคด้วย...จำได้ว่าวันนั้นยุ่นต้องสอนพิเศษบีบี ก้อเลยบอกให้เค้ามาเรียนเช้าหน่อย เสร็จเที่ยงจะได้ดู Hockey คู่เด็ดคู่นี้ ยังไงก้อต้องดู จริงๆไม่เคยดูเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรก..
ปรากฏว่า เป็นคู่เด็ดจริงๆ สมกับที่รอคอย...เป็นคู่ที่เฉือนกันไม่ลงจริงๆ hockeyเค้าจะเล่นกันสามเกมส์ๆละยี่สิบนาที เปิดเกมส์มาแคนาดายิงนำ 2-0 เสร็จอเมริกายิงตามมาเป็น 2-1 ในเกมส์สุดท้ายเราก้อคิดว่าแคนาดาชนะแน่ๆแล้ว เพราะแคนาดาเค้าก้อจะเล่นแบบป้องกันประตูเค้า ไม่บุก ในขณะที่ไอ้กันมันก้อบุกเอาบุกเอา...เหลือเชื่อมากๆก้อคือ นาทีสุดท้ายของเกมส์สาม อเมริกายิงได้อีกหนึ่งประตู...กลายเป็นเสมอ 2-2
และนั่นแหละ คนแคนาดาทั้งประเทศกร๋อยเลย ซึมเลย..คือเห็นๆว่าชนะแน่ๆ กลายมาเป็นเสมอกัน ต้องต่อเวลาอีกยี่สิบนาที และถ้าใครยิงเข้าก่อน ก้อชนะเลย Golden Goal... นั่นเอง..
เราก้อดูกันด้วยใจหวั่นๆ เสียวมากเลยว่าอเมริกาจะชนะ...ปรากฏประมาณนาทีที่เจ็ดกว่า เบอร์ 87 Sidney Crosby ของแคนาดายิงเข้าเฉยเลย....พวกแคนาดาก้อโห่ร้องกันทั้งประเทศ เราอยู่บ้านยังโห่ร้องเลย...แบบดีใจเนอะ...เสร็จทีแรกเราก้อไม่รู้ว่ามันคือ golden goal ก้อรอดู ทำไมไม่เล่นต่อเนี่ย ทำไมพวกนักกีฬาแคนาดามันกอดกันนานจัง แล้วนักกีฬาอเมริกาก้อแบบนิ่ง ไม่ขยับเลย...ซึมอยู่ในท่าเดิม ยุ่นก้อเลยบอกว่าสงสัยเกมส์แล้วแน่เลย...แล้วก้อจริงๆ...แคนาดาชนะ... 3-2 Crosby กลายเป็น hero ของแคนาดาไปทันทีเลย...
จากนั้น ยุ่นกับฮ่งก้อต้องไปซื้อกับข้าวกัน พอออกไปขึ้น Canada line ปรากฏคนโห่ร้องกันทั้งเมือง กดแตรกันใหญ่เลย...แล้วก้อจะมีกันมาเป็นกลุ่มๆเลยนะ ใส่ชุดแดงของแคนาดา เสื้อ หมวก ธง ต่างๆ เดินร้องไปตามถนน ดีใจกันทั้งเมือง ไอ้เราก้อเลยอยากรู้ว่า downtown เป็นไงบ้าง ก้อเลยนั่ง Canada line ตามไปดูหน่อย...
ตอนรถจอดเทียบที่ชานชาลา พอประตูเปิดปั๊บ เสียงโห่ร้องดังออกมาจากในรถ ทุกคนหัวเราะยิ้มแย้มกัน จากนั้นอยู่ในรถเค้าก้อร้องเพลงชาติกัน พอดีเรายังร้องไม่เป็น แต่เห็นพวกเค้า ได้ยินพวกเค้าร้องเพลง รู้สึกว่าน่ารักมากๆเลย เราดูเรายังอดภูมิใจในพวกเค้าไม่ได้เลย...ทำไมถึงพร้อมใจกันออกมา โห่ร้องแสดงความดีใจกันขนาดนี้เลย...และทุกครั้งที่รถจอดป้าย พอผู้โดยสารใหม่ขึ้นมาก้อโห่ร้องกันแบบนี้กันทั้งคันรถ ร้องเพลงกัน และก้อมีคนแคนาดามากมาย บัันทึกภาพความประทับใจนี้ไว้ในบนแผ่นฟิล์ม และวีดีโอของเค้า...
จากนั้น เราก้อลงรถกันที่ downtown ปรากฏภาพที่เราเองก้อไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต คนบนถนนเยอะมั่กๆๆๆ สีแดงกันทั้งเมือง โห่ร้อง กดแตร ลั่นเมือง ผู้คนเจอกันเอามือตบกัน...เฮกันทั้งเมือง เค้าเดินกันมาจากทางสนาม hockey และโห่ร้องกันมาตลอดทาง โบกสะบัดธงกัน...ไม่ได้มีการจลาจลนะ เป็นการฉลองชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ของแคนาดา เพราะตั้งแต่เล่นโอลิมปิคมา ปีนี้แคนาดาได้เหรียญทองมากสุดถึง 14 เหรียญ และเหรียญสุดท้ายเป็นเหรียญศักดิ์ศรีระหว่างอเมริกากับแคนาดา...เพราะฉะนั้น...คน canadian จึงมีความสุขกันมากๆเลย...ยุ่นคิดว่าลึกๆพวกแคนาดาก้อคงไม่ค่อยชอบอเมริกาเท่าไรนัก...
และนี่ก้อเป็นภาพบรรยากาศในวันนั้น ที่ยุ่นคิดว่าคงต้องบันทึกเอาไว้ เพราะต้องขอบอกว่าคงเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้เจอภาพเหตุการณ์แบบนี้....ภาพเหตุการณ์ที่ประทับใจยุ่นมากๆเลย..
Subscribe to:
Posts (Atom)