Thursday, April 8, 2010

ภาษาอังกฤษสำเนียงไทยๆของเรา....???? ก้อดีนะ..

เมื่อวานก้อเป็นวันสุดท้ายของการเรียน Eng 11 ที่ South Hill เรียกว่า course นี้ได้เจอครูที่ดีมากๆคนนึงเลยแหละ...และนั่นก้อทำให้เราต้องเรียนค่อนข้างหนักพอควร...

เวลาของการเรียนหนึ่งเทอมจะอยู่ประมาณสิบสัปดาห์ เรียกว่าโปรแกรมที่ Tom ครูอังกฤษคนนี้สอนนั้น แน่นเอียดจริงๆ แต่ก้ออยากไปเรียนกับเค้าทุกครั้ง เพราะเค้าเป็นคนที่สอนตลกมั่กๆๆ มุกฮาเยอะดี เรียนแล้วไม่เครียด แต่ว่าการบ้านเพียบ...55555

Tom จะมีเทคนิคในการสอนที่ดีมากๆ นอกจากนี้ ยังให้เทคนิคในการเรียนภาษาอังกฤษที่ได้ผลดีอย่างไม่น่าเชื่อ ยกตัวอย่างเช่น เค้าจะให้นักเรียนต้องทำ grammar exercises ทุกวัน วันละหนึ่ง unit เป็น grammar ง่ายๆ tense ต่างๆ การใช้ article การใช้ preposition โดยให้เฉลยมาเสร็จ แต่สิ่งสำคัญคือ เวลาทำการบ้านคุณต้องเขียนทั้งประโยค ไม่ใช่เขียนแต่คำตอบ...วิธีนี้ ยุ่นว่าสุดยอดมากๆเลย.. simple and easy way but it does work

เหตุผลคือเราได้ฝึกฝนเขียนเป็นประโยคทุกๆวัน วันนึงก้อมีสี่ถึงห้าสิบประโยค และเขียนแบบถูกหลัก เค้าก้อใช้หลักการคุมอง ทำง่ายๆแต่ทำทุกๆวัน...เรียกว่าเค้าสอนเราแบบ self learning เลยแหละ..หากใครอ่านแล้วจะลองเอาไปประยุกต์ใช้ก้อได้นะค้า ไม่หวงห้าม เพียงแต่เราเลือกแบบฝึกหัดที่ดี ง่ายๆ ไม่ต้องซับซ้อนมาก เขียนทุกวัน ขอบอก...ได้ผลอย่างไม่น่าเชื่อ....

นี่ก้อยังเก็บแบบฝึกหัดเค้าไว้เลย...เพราะที่ Tom ให้นั้นดีมากๆ เป็นประโยคง่ายๆที่ใช้ในชีวิตประจำวัน...มีคำอธิบายเรื่อง grammar แบบง่ายๆ อ่านแล้วเข้าใจได้ดี ชอบมากๆเลย...ต้องบอกว่าเค้าเลือกเก่ง...

ก้อต้องถือว่ายุ่นโชคดีที่ได้เรียนกับ Tom เพราะ Vivian เพื่อนที่เรียนเลขเค้ามาชวนให้ไปเีรียนอังกฤษ แล้วเค้าบอกครูคนนี้สอนดีมากเพื่อนเค้าบอก...เราก้อเลยได้เรียน และปรากฏ Tom ปกติจะสอนที่ Main Street มีเพียง course นี้เท่านั้นที่เค้าทำ part time แล้วเค้าได้สอนที่นี่ หลังจากนี้เค้าต้องย้ายไปประจำที่ Main Street ต้องถือว่าเรา ฟลุ๊คมากที่ได้เรียนกับเค้า ยังคิดเลยว่าจะขอตามไปเรียนที่ Main ด้วยหลังจากนี้..ถ้ามีโอกาส..

นอกจากนี้ Tom ได้สอนการเขียน essay ด้วยเทคนิคที่ง่ายๆแต่มีรูปแบบที่ดี สั้น กระชับ ได้ใจความ มี map มี pattern ที่นำมาประยุกต์ใช้ได้ง่าย...ไม่น่าเชื่อเลย..เพราะ course นี้ เรียกว่าแทบจะเขียน essay ทุกวันเลยก้อว่าได้

Essay ที่เรียนในเทอมนี้ก้อต่างจากที่เคยเรียนกับ Ruth และ Jennifer มันแบบยากขึ้นเยอะ นักเรียนต้องเรียนการเขียน essay จาก topic หรือคำถามที่เค้าจะให้มา เช่น..

-How to balance a low budget?
-Boys should not learn to cook , agree or disagree?
-What three people would you like to take to a desert island with you and why?
-What is a weekend?
-Everybody should speak a second language , agree or disagree?

หรือจากการอ่าน short story , poem และ novel เค้าก้อจะมีคำถามมา เราก้อต้องเขียน essay เพื่อตอบคำถามที่เค้าถามมา :
-Which chipmunk is best?
-Describe the character of Nancy Lee. Give evidence from the story that indicates the kind of person she is.
-What effect does the possible sale of the record have upon the Esposito family? What does the way he would spend the money reveal about each member of the family?

อะไรประมาณนี้แหละ..คิดดูหากเจอครูที่ไม่ดี รับรองทำไม่ได้แน่ๆ เพราะเกิดมาก้อไม่เคยเรียน ที่ไทยก้อไม่ได้เรียนการเขียนเรียงความแบบเป็นเรื่องเป็นราว เรียกว่าไม่เคยเรียนก้อว่าได้...ไ่ม่ต้องคิดถึงการเขียน writing ที่ไทย ยิ่งเป็นอะไรที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีแบบนี้ด้วยเหรอ...

แต่ของฝรั่ง เค้ามีเป็น pattern เป็นกฎเกณฑ์ เราต้อง organized ideas อย่างไร เขียนอย่างไร ดีมากๆเลย ตอนเรียนเนี่ย..คิดถึงเด็กไทยมากๆเลย อยากให้เด็กไทยมีโอกาสได้เรียนแบบนี้บ้าง คือเค้าสอนให้นักเรียนจัดระบบความคิดก่อนที่จะนำเสนอ และมีการ present อย่างไร ชอบนะ...รู้สึกดีมากเลย..

และเมื่อวานก้อเป็นวันสุดท้ายของการเรียน Tom ก้อมีช๊อตเด็ด แกก้อให้มีการ presentation โดยสอนหลักการในการ presentation ว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆ easy piesy....ง่ายๆ...แล้วก้อให้ทุกคนให้คะแนนเพื่อนๆตอนที่ออกไป present หน้าห้องด้วย เพราะฉะนั้นพอเรากลับมาที่โต๊ะ ก้อจะมีคนนำกระดาษที่ให้คะแนนเรามาวางให้เรา...ตามจำนวนนักเรียนในห้องลบไปหนึ่ง...

ห้องเรียนที่เรียนส่วนใหญ่จะเป็นคนจีน มีรัสเซียหนึ่ง เปรูหนึ่ง แล้วก้อไทยหนึ่ง ก้อคือยุ่นนั่นเอง ที่เหลืออีก 18 คนเป็นคนจีนหมดเลย..คราวนี้ปัญหาคือเวลาพูดภาษาอังกฤษหรืออ่านเนี่ย มันก้อจะเป็นสำเนียงตามภาษาเดิมของเรา..ก้อสนุกสิ..เพราะส่วนใหญ่ยุ่นจะฟังเค้าไม่ออก...คือไงดี ไม่ใช่กระแดะนะ แต่ฟัง Tom หรือพวกฝรั่งพูดเนี่ยได้มากกว่าพวกคนจีนพูดอีก...ถ้ายิ่งเจอญี่ปุ่นนะ ยิ่งฟังไม่รู้เรื่องหนักเลย..

คราวนี้ Tom ก้อบอกเทคนิคการ present อย่าพูดเร็ว ให้พูดช้าๆ ชัดๆ ดังๆ ยุ่นก้อเกรงว่าเค้าจะฟังภาษาอังกฤษแบบไทยๆของเราไม่ออก ก้อใช้หลักการที่ Tom สอนแหละ..พูดช้า ชัด และดังเข้าไว้...

และพอกลับมาที่นั่ง เพื่อนรัสเซียที่นั่งกับเรา ก้อบอกเราว่า สุวรรณีที่เธอพูดนะ ฉันฟังออกหมดทั้ง 100%เลยนะ...ฉันเข้าใจที่เธอพูดมากกว่าพวกคนจีนพูด เธอพูดได้ซึ้งมากเลย...ฉันสัมผัสได้...ฉันให้คะแนนเธอเต็มห้าเลยนะ...

ไอ้เราก้อดีใจมากเลย ยิ้มแป้นเลย .....จริงเหรอ...แล้วก้อขอบคุณเค้า คือเพื่อนรัสเซียคนนี้ไม่สนิทเหมือน Iku เค้าเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดมาก ไอ้เราก้อไม่ค่อยกล้าไปรบกวนอะไรเค้ามาก ก้อพูดกันเท่าที่จำเป็น พอเค้าชมเรา...เราก้อเลยรู้สึกดีใจจัง...

แล้วเราก้อดูคะแนนที่เพื่อนร่วมห้องเค้า grade ให้เรา ปรากฏว่า 14 คนให้คะแนนเราเต็ม มีคนนึงให้ 4.5 และอีก 4 คนให้คะแนนเรา 4 ก้อทำให้เรารู้สึกดีใจและภูมิใจ...ไม่น้อยเลย...

ก้อไม่ได้เข้าข้างพวกเราคนไทยหรอกนะ...เพียงแต่ว่าภาษาไทยเราเป็นภาษาที่เวลาพูดเนี่ย มันจะ monotone มากกว่าภาษาอื่น เสียงต่างๆเราไม่มาก เราไม่ค่อยมีบันไดเสียงเยอะ...หรือปล่าวไม่รู้ ทำให้เวลาเราฝึกพูดภาษาอังกฤษ มันจะฟังง่ายกว่าจีน กับญี่ปุ่น หรือเพราะเราคุ้นในสำเนียงไทยๆก้อไม่รู้ แต่จากการที่พูดกับเพื่อนๆหลายๆคน เค้าก้อเข้าใจที่เราพูด...เลยคิดว่าน่าจะพอใช้ได้...

และนี่ก้อเป็นอะไรที่รู้สึกภูมิใจนะ ยังไงเราคนไทยก้อไม่ได้น้อยหน้าพวกคนจีนที่มาเท่าไรนัก คือเค้ามากันเยอะไง...ไอ้ของเราเรียกว่านับคนได้..แต่เราก้อ...ไม่ได้ด้อยกว่าเค้าเลยนะ... ก้ออดภูมิใจในความเป็นไทยไม่ได้เหมือนกัน...

No comments:

Post a Comment