Friday, November 5, 2010

งานเข้าที่คุมอง...ตอนมิสไม่อยู่..

สัปดาห์นี้มิสติงลางานเพื่อไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวที่ฮาวาย ซึ่งปกติมิสติงก้อจะพักผ่อนแบบนี้ปีละหนึ่งหรือสองครั้ง..ครั้งละประมาณสองอาทิตย์ และโดยทั่วไปก้อไม่มีอะไร แกก้อสั่งงานยุ่นกับ Jessica ให้ช่วยกันรับผิดชอบ feed back นักเรียนแทน..และช่วยกันดูแลศูนย์...

ก่อนไป..มิสก้อมักจะให้้เบอร์โทรศัพท์ที่เราจะสามารถติดต่อแกได้เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน...เช่นให้เบอร์มือถือลูกสาวแกเพื่อเราจะโทรหาเวลาฉุกเฉิน แต่ครั้งนี้มิสให้แต่เบอร์ผู้จัดการที่ดูแล building ไม่ได้ให้เบอร์ลูกสาว แต่ที่ผ่านมาทุกครั้งก้อไม่เคยมีปัญหาอะไรที่เราต้องติดต่อมิสติง...ส่วนใหญ่ยุ่นกับ Jessica ก้อจัดการได้

แต่ครั้งนี้สิ..ดันเกิดเหตุ... อ้อ..ลืมไปต้องเล่าก่อนว่า building ที่เราเช่าเนี่ย มีสามชั้น รวม basement ก้อเป็นสี่ชั้น คุมองกับ church ของฟิลิปปินส์อยู่ชั้น basement ทางเข้าออกของ basement จะใช้บันไดแยกจากชั้นหนึ่งถึงชั้นสาม คือเป็นบันไดส่วนตัว ว่ากันง่ายๆ...และส่วนใหญ่พวกเราผู้ช่วยและ church จะเข้าออกโดยทางนี้ ทุกคนจะมีกุญแจที่จะไขลงมา basement

อีกทางก้อคือ elevator หรือลิฟท์ มีสองตัว ทั้งสองตัวใช้ขึ้นชั้นหนึ่งถึงสามได้ แต่มีตัวเดียวเท่านั้นที่ใช้ลง basement และจะใช้ได้ก้อต่อเมื่อมิสติงปลดล๊อคชั้นล่าง และคุมองเท่านั้นที่จะใช้ lift ลงด้านล่างได้ church จะใช้ไม่ได้ ถ้ามิสไม่เปิดลิฟท์ด้านล่าง แต่ข้างบนตึกก้อใช้ได้ตามปกติ..คือ lock แค่ basement เท่านั้น

เหตุเกิดเนื่องจากเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา มีขโมยพยายาม broke in เข้ามาตรงประตูบันไดที่ใช้ลงมาที่ basement และมันก้องัดแงะจนที่ไขกุญแจเสีย...คือไอ้ตัวที่ไขเนี่ยมัน up-side down เลย

วันอังคาร ยุ่นไปทำงานปกติ ยุ่นเป็นคนแรกที่ต้องไปเปิดศูนย์...ยุ่นก้อมีกุญแจเปิดเข้าทางบันได..และมิสก้อให้กุญแจปลดล๊อคที่ lift ด้วย...แต่ยุ่นต้องไปปลดรหัสกันขโมยก่อนโดยลงทางบันได...เพราะหากลง lift เลย กันขโมยจะดังเมื่อ lift เปิด และเราก้าวออกมา และเมื่อกันขโมยดัง..ตำรวจก้อจะมา และเมื่อตำรวจมา และไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราจะถูก charge 1,000 เหรียญ ค่าเสียเวลา..ของตำรวจที่นี่ เพราะฉะนั้น อันนี้ serious...

.แต่วันนี้ยุ่นไม่สามารถลงทางบันไดได้ เพราะไขกุญแจไม่ได้ ยุ่นก้อเลยตัดสินใจลงทาง lift เป็นไงเป็นกัน กันขโมยดังก้อต้องให้มันดัง....และแล้ว..กันขโมยก้อดังจริงๆ.. ก้อได้แต่รีบวิ่งไปกดรหัส..และตอนดึกวันนั้น มิสติงโทรมาหายุ่น ยุ่นก้อบอกเหตุให้แกรู้ ว่าประตูมีปัญหา และเราทำแบบนี้ และเราได้โทรแจ้ง Valerie ผู้จัดการว่าประตูมีปัญหา และเค้าบอกเค้าจะให้คนมาซ่อมประตูวันรุ่งขึ้น คือวันพุธ...คิดว่าน่าจะโอเค..

ยุ่นก้อวางใจคิดว่าวันพฤหัสคงเรียบร้อย..เพราะยุ่นรับผิดชอบเปิดศูนย์ทุกวันไง..พอพฤหัส..สอบ Calculus วันสุดท้ายเสร็จเร็ว ก้อเดินไปที่ศูนย์ถึงประมาณ 2:40 pm ก้อปรากฎว่าไอ้ประตูเจ้าปัญหายังไม่ได้ซ่อม ยุ่นก้อเฮ้อ..เราต้องลงทาง lift อีกแล้ว... กันขโมยต้องดังอีก..แต่ไม่รู้ทำไง..ก้อไปกด lift ..ปรากฎ วันนี้ lift ก้อไม่ทำงาน ไม่มีไฟ...ไม่มีใครสามารถใช้ lift ได้เลย หรือว่า เกิดอะไรขึ้น เจ้าของเค้า lock lift ตัวนี้เหรอ??

งานเข้าละสิ...แล้วเราจะลงไปที่คุมองไงเนี่ย......ก้อโทรหา Valerie อีก ปรากฎคุณเธอไม่รับสายให้ฝากข้อความ ที่นี่เนี่ย...แบบเวลาเราโทรศัพท์หาคนที่นี่นะ....ทางมือถือนะ..จะไม่มีการรับสาย....เรามักจะไม่ได้คุยกับเจ้าของเครื่องณ.เวลาที่โทรไป... ส่วนใหญ่เราจะต้องฝากข้อความ พอเค้าได้รับสักพัก เค้าค่อยโทรกลับ.... เพราะที่นี่คนรับสายก้อเสียสตางค์ จึงไม่ค่อยมีคนรับ ส่วนใหญ่จึงเป็นการฝากข้อความ มันก้อเสียสตางค์เหมือนกันแต่ในราคาที่ถูกกว่า...เรียกว่าทีแรกที่มาที่นี่แบบหงุดหงิดสุดๆ ปรับใจปรับตัวอยู่ระยะหนึ่งเลย แต่พอเจออีก ก้อหงุดหงิดอีก..

เสร็จยุ่นก้อโทรไปสองรอบ คุณเธอก้อไม่รับ..ไอ้เราก้อทำไงเนี่ย เดี๋ยวนักเรียนจะมาแล้ว...แล้วเนี่ยลงไปที่ศูนย์ไม่ได้ เราคงต้องติดต่อมิส ปรากฎครั้งนี้มิสไม่ได้ให้เบอร์ที่ติดต่อแกไว้ แต่ยุ่นรู้ว่าลูกสาวคนเล็กของมิสอยูที่บ้านมิส ยุ่นเลยโทรหาเค้าที่บ้าน เล่าหตุการณ์ที่เกิดให้ฟังและบอกว่า ยุ่นต้องการให้มิสติงรับรู้เรื่องนี้และติดต่อกลับมาหายุ่น ว่ายุ่นสามารถทำอะไร ยังไงได้..

ลูกสาวเค้าก้อรีบจัดการโทรไปที่ฮาวาย..มิสติงก้อโทรกลับภายในไม่ถึงห้านาที..แกบอกให้ยุ่นขึ้นไปขอความช่วยเหลือข้างบนตึก.. office บริษัทไหนก้อได้....ให้เค้าช่วยติดต่อ Valerie ให้ได้ ยุ่นก้อทำตามแกบอก..แต่พวกนั้นเค้าบอกเค้าช่วยไม่ได้ เราต้องติดต่อ Valerie เอง..ยุ่นก้อบอกแกว่ายุ่นเองก้อติดต่อแล้วนะ แต่เค้าไม่รับสาย.. แกก้อบอกให้ยุ่นเดินไปอีกตึกหนึ่ง..เดินไปสองห้องนะ..เป็นเหมือนที่ๆเวลามีอะไรก้อไปติดต่อได้...ยุ่นก้อไปหา เค้าก้อบอกเค้าช่วยอะไรไม่ได้ เราต้องติดต่อ valerie คนเดียวเท่านั้น..

คือที่นี่ใน buildingที่เราเช่า จะไม่มีสำนักงานของ building นะ ทุกห้องทุกชั้นปล่อยให้เค้าเช่าหมด..ผู้จัดการกับพนักงานไปอยู่อีกที่หนึ่ง ยุ่นก้อไม่รู้ว่าทีไ่หน เราติดต่อเค้าได้ทางโทรศัพท์ทางเดียวเท่านั้นเวลามีปัญหา...........โครตประหยัดค่าใช้จ่ายเลย อะไรกันนักกันหนา..

เสร็จมิสติงก้อโทรมาบอกว่า ลูกสาวคนเล็กเค้าติดต่อ Valerie ให้ได้แล้วเค้าบอกให้เรารอ เดี๋ยวจะส่งช่างมาซ่อมประตูทันทีเลย....เค้าบอก battery ของ Valerie ใกล้หมด...เค้าไม่สะดวกคุยกับเรา...ยุ่นก้อรอ..รอ..รอ จนรู้สึกมันไม่ใช่ ก้อโทรหา Valerie อีกครั้ง..ได้คุยกับเค้าๆก้อบอกให้รอ... และกำลังจะบอกเบอร์ไอ้ช่างเนี่ย battery เธอก้อหมดแบบหมดจริงๆเลย...คราวนี้ เป็นอันจบการติดต่อ...

ที่เล่ามาถึงตอนนี้ก้อประมาณสามโมงยี่สิบแล้วหละ....นักเรียนก้อเริ่มทยอยมาทยอยมาเรื่อยๆ..เราก้อยิ่งเครียดเนอะ..คือไม่รู้ว่าเมื่อไรไอ้ช่างมันจะมา..ผู้ปกครองก้อเริ่มหงุดหงิดกัน บางคนขอมาพรุ่งนี้ เราก้อเลยให้เค้าลงชื่อไว้..

เสร็จ ยุ่นก้อทนไม่ไหวอีก..ก้อบอกเพื่อน assistant ว่า เราลองช่วยกันเปิดประตูอีกครั้งมั้ย?? ยุ่นก้อลองใหม่ ไขไม่ได้ Trammy ลอง ก้อไม่ work สุดท้ายให้ Sarah ลอง ไม่รู้ sarah ทำไง หมุนไงไม่รู้ มันได้ อยู่ดีๆเปิดออก..จึงทำให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี.. เราสามารถเข้าไปได้ตอนสี่โมงเย็น...แต่อย่างไรก้อตาม ตลอดเย็นนั้น ไม่มีใครมาซ่อมประตูหรือซ่อม lift เลย และไม่มีแม้แต่เงาของผู้จัดการที่ชื่อ Valerie มาดูความคืบหน้า...ความเรียบร้อย...หรือขอโทษเราหรือ...มาถามไถ่เราว่าเป็นอย่างไร...

ไม่น่าเชื่อว่า Valerie จะทำงานที่นี่ได้ ดูเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบเอาเลย.... เพราะเรื่องนี้มันเกิดตั้งแต่อังคาร และวันนี้พฤหัส..

ตอนดึกวันพฤหัส...ยุ่นก้อเล่าทุกสิ่งอย่างให้มิสติงฟัง มิสติงก้อเลยโทรหาเจ้าของตึก เจ้าของก้อขอโทษมิส และสัญญาว่าพรุ่งนี้คือวันศุกร์ตอนสามโมง แน่นอนเค้าจะส่งคนมาจัดการเปิดประตุให้เรา ไม่ต้องห่วง

วันศุกร์ยุ่นก้อมาปกติ ใช่เค้าซ่อมประตูให้เรียบร้อย แต่คราวนี้เค้าเปลี่ยน lock อันใหม่ กุญแจยุ่นก้อเข้าไม่ได้ แต่บังเอิญ lift ใช้งานได้ และเราก้อมีกุญแจ lift ยุ่นจึงลงไปได้..

เข้าไปในคุมองก้อเจอ Mary คนที่รับผิดชอบจัด worksheet เค้าอยู่ เค้าเล่าให้ฟังว่าเค้ามาตั้งแต่เก้าโมงเช้าวันนี้ ประตูและ lift ยังไม่ได้ซ่อม และเค้าโทรตาม Valerie และ force เลยว่าต้องส่งคนมาซ่อม... Valerie บอกเค้าติดต่อช่างแล้ว แต่ช่างไม่รับสาย เค้าไม่รู้ทำไง Mary บอก Mary ไม่สน แต่ต้องส่งคนมาซ่อมให้คุมองเพราะเด็กจะมาสามโมงและการบ้าน Mary ก้อยังจัดไม่เรียบร้อยดีเลย...คือวันศุกร์ทั้งหมดทั้งอังกฤษกับเลข Mary ยังไม่ได้จัดเลยอ่ะ...เด็ก 100กว่าคนอ่ะ..

และ Mary ก้อรอสามชั่วโมงหลังจากโทรบอก เค้าก้อตามช่างและมาซ่อมให้จนเสร็จตอนเที่ยง Mary ก้อเข้ามาได้ lift ก้อเรียบร้อย...ยุ่นก้อเลยไม่มีปัญหาตอนวันศุกร์บ่ายสามที่ไปถึง..

และนี่เพิ่งรู้จากมิสติงว่า Valerie เนี่ย ถูกเจ้าของตึกไล่ออกไปแล้ว เพราะขาดความรับผิดชอบ..ยุ่นว่าสมควรนะ..อะไรเนี่ยเป็นผู้จัดการดูแลตึกเช่า ปล่อยให้โทรศัพท์ที่ใช้ติดต่องาน battery หมด... ซ้ำร้ายปล่อยให้เรื่องประตูซึ่งมันเกิดตั้งแต่อังคารเนี่ย เรื้อรังมาถึงวันศุกร์ มันตั้งหลายวันเลยอ่ะ...ยุ่นว่าหากทำงานแบบนี้ สร้างความไม่สะดวกให้ผู้เช่าแบบนี้ ก้อสมควรถูกไล่ออกนะ...นอกจากนี้ต้องบอกว่าเธอร้ายจริงๆ เพราะเธอโทรทางไกลเข้าเบอร์ลูกสาวมิสติงที่ฮาวาย.. ทะเลาะกับมิสติงหลังจากที่เธอถูกไล่ออก ตอนสิบโมงครึ่งของวันศุกร์.....สุดยอดจริงๆ...คนๆนี้...

2 comments:

  1. ชีวิตตื่นเต้นดีนะพี่ยุ่น 555

    ReplyDelete
  2. อึม..เรียกว่ารสชาติของชีวิตนะ..แต่ตอนอยู่ในเหตุการณ์เนี่ย..หัวเราะไม่ออก..เลยนะ...เครียดเหมือนกันนิ...แต่ไงก้อ...ต้องเจออะไรที่เรียกว่าทุกข์ไง ถึงรู้ว่าสุขเป็นไง ?!? 55555

    ReplyDelete