ช่วงปิด summer ยุ่นได้มีโอกาสสอนเด็กเล็ก 3 คน กำลังจะขึ้นเกรด 4 หนึ่งคน และกำลังจะขึ้นเกรด 6 สองคน ด้วยความคิดที่เปลี่ยนไป หลังจากได้สอนพิเศษเด็กแบบเดี่ยวๆ และยุ่นไม่เชื่อใน concept ของคุมองว่าต้องทำบวกอย่างเดียวจนคล่อง แล้วลบอย่างเดียว แล้วคูณ.....แล้วหาร...ยุ่นเลยลองประยุกต์หลักการตามความคิดและประสบการณ์ที่เราได้ดูนักเรียนมา...แต่ก้อยังคงใช้หลักการที่ว่าต้องเริ่มจากพื้นฐานง่ายๆ และค่อยๆยากขึ้นวันละนิดวันละหน่อย...( อันนี้หมายถึงในเด็กโต ที่ได้เรียนการบวก ลบ คูณ หารมาจากโรงเรียนแล้ว หากเด็กเล็กๆ..ก้อคงต้องเข้าทีละทักษะ)
แนน เกรด 4 จากเริ่มต้นจะบวกได้ค่อนข้างดี แต่การลบไม่คล่อง และสูตรคูณไม่ได้ ยุ่นจะให้ทำไปพร้อมๆกันทุกวัน โดยให้การบ้านฝึกการบวกที่คล่องอยู่แล้ว และให้ทำลบด้วยโดยเริ่มจากง่ายๆ นอกจากนี้เด็กต้องท่องสูตรคูณแบบเขียนออกมาทุกวัน และเป็นการเขียนแบบ random ร่วมด้วย
ขิม &ขวัญ ก้อเช่นกัน บวกโอเค แต่ลบจะสู้บวกไม่ได้ สูตรคูณก้อไม่คล่องเช่นกัน การบวกลบเลขจะต้องเขียนทด เขียนยืม สูตรคูณประมาณถึงแม่ 4 หารทำไม่ได้ มีปัญหา ไม่เข้าใจ ยุ่นก้อให้การบ้านรวมมิตร โดยแก้ตามจุดอ่อนของเด็กแต่ละคน บวกให้ทุกวัน และมีสลับลบ เด็กต้องดูเครื่องหมาย ช่วงแรกให้งาน...เด็กยังเขียนทดยืม แต่พอเราดูว่าเค้าเริ่มเข้าที่ ยุ่นก้อสอนให้เค้าลองคิดในใจ ไม่เขียนทดยืม สูตรคูณทุกวัน ค่อยๆเพิ่มวันละ 1 แม่ จนครบ 9 และ random ด้วย...
ผลที่ออกมา สำหรับยุ่น ยุ่นค่อนข้างพอใจนะ น้องแนนเห็นผลไม่ชัด เพราะเรียนไม่ต่อเนื่อง ช่วงกำลังเริ่มเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้น แนนหยุดเรียนติดต่อกันสองอาทิตย์ เลยไม่ได้ให้การบ้านประมาณ 10 วันทำให้สัปดาห์สุดท้ายเห็นภาพไม่ชัดเจน
แต่ขิมกะขวัญเรียนต่อเนื่อง ไม่หยุด มาสัปดาห์ละ 1 วันเหมือนแนน แต่ยุ่นให้การบ้านเพื่อปรับพื้นฐานแต่ละคน ซึ่งเด็กๆจะทำการบ้านอย่างเคร่งครัด น่ารักมาก ผลที่ได้ค่อนข้างชัดเจน ขนาดตัวเด็กเอง ยังรู้สึกได้เลยว่าเค้าคิดเลขได้เร็วและแม่นยำมากขึ้น รวมทั้งสามารถคิดในใจได้อย่างสบายๆ ทั้งๆที่ทีแรกมา คิดช้า และเขียนทดด้วย...
สูตรคูณ เอาการกันจนคล่อง พอยุ่นเริ่มมั่นใจ ก้อสอนหาร ปรากฎว่าขิมและขวัญสามารถทำหารได้อย่างสบายๆ เทียบกับตอนแรกที่มา ให้สอบ หารทำไม่ค่อยได้ แต่พอสูตรคูณแม่น บวกลบแน่น หารก้อเป็นเรื่องไม่ยากเกินไปสำหรับเด็กๆ...
ยุ่นคิดว่าการที่เราให้เด็กฝึกหลายๆทักษะนั้นเป็นสิ่งที่ดี เพราะเป็นการฝึกให้เด็กต้องดูเครื่องหมาย ต้องมีความรอบคอบ ต้องมีการเปลี่ยนหัวบ้าง ไม่ใช่ทำตามเคยชินเท่านั้น อย่างเช่นเด็กคุมองเวลาบวกก้อจะบวกแหลก ลบก้อแบบลบเพลินจนลืมบวก พอคูณก้อคูณจนลืมลบ เพราะคูณใช้ทักษะบวกด้วย พอหารก้อหารกันจนลืมเรื่องคูณอะไรประมาณนี้ ซึ่งยุ่นว่าอย่างเด็ก grade 6 เค้าก้อทำได้ทุกทักษะอยู่แล้ว เพียงแต่หากอันไหนด้อย เราก้ออาจเสริมให้มากหน่อย แต่ควรไปพร้อมกันทุกทักษะ ซึ่งจากการทดลองให้งานเด็กแบบนี้ ยุ่นว่า work กว่าของคุมอง เพราะเปรียบเทียบกับนักเรียนคุมองที่เรียนที่ศูนย์ เช่นเด็กอยู่ เกรด 5 เกรด 6 ทำบวกอย่างเดียว บางทีก้อมีทำเป็นคูณ หรือพอทำไปนานๆ เข้าเรื่องลบ เด็กจะชะงักงันอย่างแรง. ไปไม่ถูก ทั้งๆที่เค้าก้อเรียนมาจากโรงเรียนแล้ว..ประมาณเหมือนการสลับสับเปลี่ยนหัวจะช้าพอควร...
และที่สำคัญ ยุ่นไม่ได้เน้นเรื่องการจับเวลาเหมือนคุมอง เพราะยุ่นต้องการให้เด็กทำงานให้เรียบร้อยและที่สำคัญคือการแสดงวิธีทำ วิชาคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ต้องการความเรียบร้อย ไม่ใช่ไก่เขี่ย หากการเริ่มต้นเป็นแบบไม่เรียบร้อย การเปลี่ยนนั้นจะยากมากๆ...และการแสดงวิธีทำคือคะแนนและตัวบ่งชี้ว่าเค้าเข้าใจในแต่ละเรื่องมากน้อยแค่ไหน มากกว่าเน้นที่คำตอบเท่านั้น ยุ่นว่านะ เวลาที่เราจับเวลา จะทำให้เด็กไปสนใจแต่เวลา และลืมเรื่องความเรียบร้อย ความรอบคอบในการทำงาน การแสดงวิธีทำ ในความเป็นจริงเวลาสอบ เวลาที่เค้ากำหนด ก้อไม่ได้แบบกดดันเด็กขนาดนั้น คือมันเป็นเวลามาตรฐาน ฉะนั้นจึงไม่ใช่แค่ความเร็ว และความถูกต้องก้อเป็นสิ่งที่นักเรียนไม่ควรมองข้ามเช่นกัน...
และจากการสังเกตุ ขิม และขวัญในการคิดเลข ไม่แพ้เด็กคุมองเลยในเรื่องความเร็ว แต่เราได้เห็นความเรียบร้อยในการทำงาน และความถูกต้องมากกว่ามาก...
หากเด็กมีวินัยในการทำการบ้าน ฝึกฝนสม่ำเสมอ ตั้งใจทำงาน เค้าจะสามารถคิดเลขได้คล่องแคล่วและแม่นยำโดยธรรมชาติและอัตโนมัติ เราอาจบอกเค้าได้ว่า การบ้านที่เราให้ใน 1 วันเราคาดหวังให้เค้าควรทำภายในเวลาเท่าไร เช่น 20 นาทีทุกวัน และให้เค้าพยายาม control ตัวเองให้ทำงานในเวลาที่กำหนด...
สิ่งที่ยุ่นได้นำมาปรับใช้กับเด็กนักเรียนรุ่นใหม่ๆที่เข้ามาเรียน ส่วนมากจะเกิดจากประสบการณ์ในการที่เราเห็น สังเกตุ และเคยเดินผิดพลาดในเด็กนักเรียนรุ่นก่อนๆ เช่น การสอนคุมองซึ่งไปมุ่งเน้นจับเวลาทำให้เด็กไม่มี step ในการทำงาน พะวงแต่ความเร็ว ทำงานไม่เรียบร้อย...ซึ่งเป็นวิธีการที่ผิดมากๆ ยิ่งสำหรับที่นี่ แคนาดา เค้าให้คะแนนที่วิธีการในการหาคำตอบ มากกว่าคำตอบ แต่ยุ่นเองก้อจำได้ว่าแต่ก่อนตอนเด็กๆครูยุ่นเค้ากอ้เน้นขั้นตอนในการหาคำตอบเช่นกัน ก้อต้องเรียกว่าเราเองก้อหลงทางไปกับคุมอง ( ซึ่งญี่ปุ่นบางครั้งเค้าอาจคิดว่าเค้ากำลังผลิตหุ่นยนต์สมองกลอยู่ และเราก้อตามเค้า เพราะคิดว่าเค้าเก่งกว่าเรา...) โดยลืมกลับมามองสิ่งที่ดีที่เราได้เคยถูกฝึกฝนมาและนำมาปรับใช้ให้เหมาะกับเราเอง ซึ่งเป็นอะไรที่เรียบง่าย แต่ได้ผลเสมอ...
อีกเทคนิคหนึ่งที่ดีมากสำหรับการเรียนรู้ทุกวิชาก้อคือ การหาจุดที่ผิดให้ได้ก่อนทำการแก้ไข อันนี้ยุ่นว่าใช้ได้ตลอดชีวิตของเราเลยอ่ะ..ไม่ใช่เพียงการเรียนเท่านั้น ในการทำงานก้อเช่นกัน.....และเราจะเห็นพัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับการที่ยังไม่ได้ดูอะไรเลย เห็นว่าผิดก้อลบทันที...จะทำให้เด็กไม่เกิดการเรียนรู้เลย...
จริงๆเทคนิคเหล่านี้ก้อเป็นสิ่งที่ยุ่นเคยบอกเล่าเสมอมา เพียงแต่วันนี้ยุ่นก้อยิ่ง confirm ว่ามันใช่ และมาถูกทาง เพราะเราสามารถประเมินผลงานการสอนของเราผ่านตัวเด็กนักเรียน...ซึ่งแท้จริงแล้วเด็กๆก้อคือครูตัวจริง และครูที่ดีของครูทั้งหลายนั่นเอง...^^
No comments:
Post a Comment