การไปเที่ยว San Francisco ครั้งนี้
สำหรับครูยุ่น..
เป็นการไปเที่ยวกันเองครั้งแรกในชีวิต
ไม่ได้ไปกับทัวร์
เป็นการไปเที่ยวแบบตามใจผู้เที่ยวสุดๆ
มีอิสระ สบาย เหมือนการมาพักผ่อนจริงๆ
และเป็นทริปที่ทุกคนประทับใจมาก
เราไปกันสองครอบครัว สี่ชีวิต
คุณพงษ์ไกด์กิตติมศักดิ์..
คุณบี้เจ้าของร้าน Thai Café ตัวจริง
คุณชาญชัย..สามีครูยุ่น และครูยุ่น
พวกเราออกเดินทางวันเสาร์ที่ 20
กันยายน 2014
ขับรถข้ามพรมแดนเข้าอเมริกา
ที่ Peace Arch Border
แวะ Duty free
พอออกจาก duty free เป็น
Lane บังคับ
ให้รถเราต้อง line up (เพื่อผ่านด่านเข้าอเมริกา)
ใน Nexus lane โดยไม่ได้ตั้งใจ
( Nexus lane เป็น lane สำหรับคนที่ถือ
Nexus card
ซึ่งจะออกให้ U.S. and Canadian citizen
ใช้ในการผ่านเข้าแคนาดาและอเมริกา
โดยทางบก ทางน้ำและทางอากาศ
ซึ่งต้อง apply เป็นสมาชิก
50 เหรียญต่อ 5 ปี
และ Nexus lane จะได้สิทธิพิเศษ
คือไม่เสียเวลาในการ line up ยาวนานเหมือน
Lane ธรรมดา )
เมื่อเรารู้ตัวว่าเราอยู่ Nexus lane
เราก้อต้องขอทางเพื่อเข้า lane line up ปกติ
(หากไม่มี Nexus card และเข้าใน
Nexus lane จะถูกปรับ)
เนื่องจากรถ line up ติดยาวมาก
จึงทำให้รถเราขวาง Nexus lane
ในช่วงเวลาหนึ่งโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ
ซึ่งทำให้คนใช้ Nexus lane ไม่พอใจ
ครูยุ่นขอ share เป็นข้อมูล
หากใครที่จะผ่าน Peace Arch Border
และออกมาจาก duty free
อย่าเข้า Lane ขวาสุด
ให้พยายามเข้า Lane ทางซ้าย
จะได้ไม่มีปัญหาเหมือนกรุ๊ปของเรา...
จากนั้นพวกเราก้อมุ่งหน้าไปที่
Bellingham International Airport
ใน Bellingham, Washington
ซึ่งเราจะจอดรถที่นี่และบินไป Oakland
ค่าจอดรถใน Main Terminal Lot $12 Per
24 Hour Period
เราไม่บิน Direct flight จาก
Vancouver ไป San Francisco
เพราะค่าตั๋วไปกลับประมาณ 300
กว่าเหรียญต่อคน
แต่เราเลือกบินจาก Bellingham ไป Oakland
ซึ่งค่าตั๋วไปกลับเพียง 50
เหรียญต่อคน
ซึ่งทำให้เราสามารถประหยัด
ค่าใช้จ่ายในการเที่ยวครั้งนี้ได้ไม่น้อยเลย
เครื่องบินออกจาก Bellingham ไป Oakland
ใช้เวลาประมาณ 2
ชั่วโมง
ถึง Oakland ...
พวกเรานั่ง Taxi ข้าม
San Francisco Bay
ไปฝั่ง San Francisco ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง
ค่า taxi 80
เหรียญแพงกว่าค่าตั๋วที่บินมาอีก..
และในที่สุด...
คณะเราก้อถึงจุดหมายปลายทาง
ทานข้าวเย็นที่ Dragon Well Restaurant
ร้านอาหารจีนที่ไม่ค่อยจีนเท่าไร
จากนั้นพักผ่อน charge batteries
เตรียมลุยสำหรับวันรุ่งขึ้นกันต่อไป
No comments:
Post a Comment