Wednesday, May 26, 2010

การเรียนรู้ที่แท้จริงคืออะไร ???

"Learning is a treasure that will follow its owner everywhere." ~สุภาษิตของจีน ที่เป็นจริงทุกยุคทุกสมัย...และสำหรับสังคมตะวันตกแล้ว การเรียนรู้ไม่มีวันจบ ไม่ว่าคุณจะแก่แค่ไหนก้อเรียนได้..เป็นภาพที่เห็นจริงตอนยุ่นไปเรียนหนังสือ บางคนนะ หกสิบกว่ายังมาเรียนเลย..แบบเป็นตาหรือยายแล้วนะ...แบบมาเรียนของ high school นะ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนอายุมากๆนะ..ขนาดยุ่นเนี่ย..ตอนนี้มาเรียน ยังรู้สึกเลยว่าประสิทธิภาพเรายังตกไปเยอะเลย...

หลังจากที่ยุ่นเรียนจบเภสัช จุฬาแล้ว ก้อแบบไม่คิดอยากเรียนหนังสืออีกเลย..ไม่รู้ว่าเพราะ
-เรียนหนักรึ? ก้อคงไม่ใช่เพราะไม่ค่อยเข้าห้องเรียน อ่านแต่ Xerox วันใกล้สอบจะเห็นยุ่น โส นุก..อยู่ตามเครื่อง Xerox หรือไม่ก้อวิ่งหาเปรม..เพื่อขอต้นฉบับ... มาคิดเนี่ย..วิธีการเรียนของเราก้อผิดเห็นๆ... เรียนเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า...
-หรืออาจเรียนสาขาที่ตัวเราไม่ได้ชอบเท่าไร..จึงทำให้ไม่เกิดการอยากเรียนรู้เพิ่ม..
-หรืออาจด้วยไม่ได้เป็นคนชอบเรียนรู้ ใฝ่รู้ ก้อเลยไม่ค่อยหาความรู้เพิ่มเติม...เฮ้อ..ก้อยังไม่รู้เลยนะเนี่ย!...ว่าเหตุผลที่แท้จริงคืออะไร......จนถึงทุกวันนี้ แต่ที่รู้ๆ...มันเป็นความสูญเสียทางด้านการศึกษาแน่ๆ....

และที่รู้แน่ๆอีกอันก้อคือตอนที่ศรีสันต์มาชวนให้ไปเรียนต่ออเมริกาตอนนั้น.. เรียนโทบริหารธุรกิจอะไรประมาณนี้...ยุ่นรู้แต่ว่า..ไม่อยากเรียนเลย..อยากทำงานมากกว่า อยากหาประสบการณ์ที่แตกต่างนะ..ไม่อยากท่องหนังสือแล้ว ไม่อยากสอบ...เบื่อมากๆเลย...พอกันทีชีวิตนักเรียน..นักศึกษา...

จนมาวันนี้ มาอยู่แคนาดา ต้องกลับมาเรียนหนังสืออีกครั้ง..จริงๆก้อได้เรียนบ้างเหมือนกันตอนทำคุมอง..แต่เพียงแต่ของแคนาดาเนี่ย..เราเหมือนเด็กนักเรียนมากกว่าของคุมอง..อึม..ตัดเกรดชัดเจน คุมองไม่ผ่านไม่เป็นไร ไปสอบกันจนผ่าน น้องๆ staff ช่วยกันจน instructor ต้องผ่านให้ได้ แต่ที่นี่..ต้องทำให้ผ่านด้วยกำลังสมอง..กำลังความสามารถของเราเอง..คือตนเป็นที่พึ่งแห่งตนนะ...

แต่วันนี้ที่กลับมาเรียน..ยุ่นรู้สึกว่าดีนะ..เพราะยุ่นเรียนแบบวิเคราะห์...ไม่ว่าจะเรียนวิชาคณิตศาสตร์หรือภาษาอังกฤษ เราจะไม่ได้เรียนแบบสมัยเด็กๆ เรียนเพื่อสอบ..แต่อันนี้ ยุ่นเรียนเพื่อรู้..คิดวิเคราะห์...เพื่อให้ได้ประโยชน์จริงๆ...และก้อรู้สึกสนุกกับการเรียนนะ..และชอบค้นคว้าเอง...อะไรที่อยากรู้พิ่ม ก้อหาใน net บ้าง หาตามห้องสมุดเองบ้าง...ก้อไม่รู้ว่าระบบการเรียนของที่นี่ที่เปลี่ยนเรา หรือว่าเราแก่แล้ว หรือว่าเราได้เรียนในสิ่งที่เราสนใจ..

แต่สิ่งหนึ่งที่ชอบของการเรียนที่นี่ และก้อสังเกตุมาทุกครูอังกฤษนะ..คือการให้เกียรตินักเรียนในการแสดงความคิดเห็น..แบบเวลาเขียน writing แล้วส่งให้ครูตรวจแก้ไข..ไม่เคยมีครูคนไหนขีดฆ่างานของยุ่นเลย..เคยดูของเพื่อนก้อเหมือนกันนะ...แต่เค้าจะ comment ข้างๆ..ถ้าเค้าอ่านไม่รู้เรื่อง หรือไม่เข้าใจ เค้าจะขีดเส้นใต้ หรือทำปีกกาในช่วงที่ไม่เข้าใจ แล้วใส่ question mark และส่วนใหญ่จะแก้ grammar เราที่ผิด แต่ไม่เปลี่ยนความคิดเห็นของเรา..คือคงของเก่าของเราไว้ตลอด...

ไม่รู้นะ..ชอบอะ..แบบเค้าเคารพในสิ่งที่เราออกความคิดเห็น..ไม่รู้คนอื่นคิดยังไง แต่ยุ่นคิดแบบนี้...ทั้งที่มันอาจจะแปลกๆ หรือแตกต่างจากเค้า..ไม่ว่าจะเป็นการเขียน หรือคำพูด..เช่น..เวลาเรียนในห้อง debate อะไรกัน..เค้าจะฟังทุกๆความคิดเห็น ทุกๆเหตุผล..ไม่ใช่ครูพูดอะไรก้อถูกหมด...นักเรียนไม่เห็นด้วยก้อต้องเออออห่อหมก...เพราะกลัวครูไม่ชอบ..กลัวครูว่าไม่เคารพบ้าง...มีผลต่อคะแนนบ้าง...

ครูที่นี่ชอบให้แสดงความคิดเห็นนะ..เพื่อให้เห็นมุมมองที่แตกต่างของแต่ละคน..คือถกกันด้วยเหตุผลนะ..ไม่้ได้ใช้อารมณ์...และครูของเค้าก้อให้เกียรตินักเรียนในการแสดงความคิดเห็น..ยุ่นลองถามยีน..ว่าของยีนเหมือนของแม่มั้ย..อาจเพราะพวกเราเป็นผู้ใหญ่ ยีนบอกก้อเหมือนกัน...ครูที่นี่เค้าชอบให้แสดงความคิดเห็นนะแม่...แล้วยังพยายามให้คิดเหตุผลมาโต้แย้งกันด้วย..สนุกดีแม่..ยีนชอบ...

และนี่ก้อคงเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่เค้าปลูกฝังกันมาตั้งแต่สังคมในโรงเรียน การให้เกียรติผู้อื่น รับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง และเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกันแม้นเรามีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน...

ถ้าหากสังคมเล็กๆในโรงเรียนของสังคมไทย..ได้เริ่มมีสิ่งดีๆเหล่านี้เข้ามา...ก้อน่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับลูกหลานของเราในวันข้างหน้านะ....อยากให้ครูไทยเปลี่ยนทัศนคติในการสอนเด็ก...และมีการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นซึ่งกันและกัน....ซึ่งมันเหมือนเป็นเรื่องเล็กมากในสังคมจนพวกเรามองข้าม...แต่มันเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการอยู่ร่วมกัน...อย่างสันติ...

2 comments:

  1. เปลี่ยน theme ด้วยนะ เป็นเพราะอากาศที่นั่นเปลี่ยนฤดูหรือเปล่าคะ :)

    พี่ยุ่นเป็นเหมือนเก๋เลยนะ ทั้งวิธีการเรียน และความรู้สึกเมื่อเรียนจบ 5555 ขนาดว่าตอนที่ไปสอบต่อโทได้แล้ว ยังตัดสินใจเลิกเรียนเลย แบบว่าไม่เอาแล้วดีกว่า เพราะดูๆ แล้วมันไม่จำเป็นกับชีวิตเราเท่าไหร่

    เรียนจบไปตั้งนาน ยังมีฝันหลอกหลอนอยู่เรื่อยๆ เรื่องเดิมๆ ว่าจะสอบแล้ว ยังไม่ได้ดูหนังสือเลย

    เก๋คิดว่าเป็นเพราะเราเรียนในสิ่งที่เราไม่ชอบ ไม่สนใจ เราก็เลยไม่ใฝ่รู้นะ เพราะนึกถึงตอนนี้สิ พี่ยุ่นไม่เคยสนใจคอมพิวเตอร์ ยังหันมาเขียนบล็อกได้เลย รู้จักเปลี่ยนโน่นเปลี่ยนนี่ด้วยนะ

    เก๋จำได้ว่าตอนที่ไปสัมนาคุมอง เก๋ชอบไปนะ คืออยากฟัง อยากรู้ว่า instructor คนอื่นเขาทำยังไง มีประสบการณ์แบบไหน แล้วก็ที่เก๋มาทำเว็บโน่นนี่ ก็ไม่เคยเรียนมาก่อนจากในโรงเรียน มาหาความรู้เอาเอง บางทีดึกๆ ดื่นๆ ไม่หลับไม่นอน ถ้าเราไม่ใฝ่รู้ เราก็คงไม่พยายามขนาดนี้หรอก

    พวกเราเป็นผลผลิตของระบบการศึกษาที่ล้มเหลวไง จากประสบการณ์ของตัวเอง ทำให้เก๋ไม่ค่อยสนใจการศึกษาในระบบของเราเท่าไหร่แล้วนะ คือสำหรับเก๋ ลูกไม่จำเป็นต้องเรียนมาแตร์ สาธิต หรือเตรียมอุดมนะ เก๋คิดว่า internet มันทลายกำแพงของเรียนรู้ทุกอย่างไปหมดแล้ว ปัญหาของเก๋ตอนนี้คือ ทำยังไงเราจึงจะได้รู้ว่าลูกเรามี passion กับอะไรต่างหาก

    ReplyDelete
  2. ลืมไปว่ามี theme อะไรอยู่ วันนี้ก้อเลยจัดให้เรียบร้อยแล้วค่ะ...^.^

    ใช่ พี่เห็นด้วยกับเก๋..อย่างไรก้อตาม นี่ก้อผ่านไป 20กว่าปีแล้วนะหลังจากพี่จบมหา'ลัย แต่ระบบการศึกษาที่ล้มเหลวของเราก้อยังไม่เปลี่ยนแปลง เรายังคงกระบวนการล้มเหลวเช่นนั้นอยู่..

    .เผลอๆพี่ว่าจะหนักกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ..เพราะเด็กไทยตอนนี้พึ่งพาโรงเรียนกวดวิชามากๆ.. พึ่งพาคนอื่น ก่อนที่จะคิดพึ่งพาตนเอง...

    เราซึ่งเป็นพ่อแม่ก้อคงต้องหาทางออก หรือแก้ปัญหาตามสภาพแต่ละครอบครัว...

    ReplyDelete