ทุกๆปีช่วงเทศกาลคริสมาส โรงเรียนที่นี่จะหยุดกันยาวสองอาทิตย์ หรือประมาณ 16 วัน...อึม...ถ้าตั๋วเครื่องบินกลับไทยไม่แพงเท่าไร..ยุ่นก้ออยากบินกลับไทยเหมือนกันนะเนี่ย...คิดถึงบ้านเราจัง....เพราะอยู่ที่นี่...อากาศหนาวก้อหนาว...แล้วเราก้อไม่มีญาติพี่น้องเพื่อนฝูง...ให้ไปสังสรรค์ด้วยเลย... เศร้าเล็กๆ...
แต่ปีนี้..ครอบครัวเราได้ไปสังสรรค์ที่บ้านพี่ประเวศกันช่วงคริสมาส ก้อนั่งกินข้าวแล้วก้อคุยกันเหมือนเคย...เดี๋ยวมีอีกครั้ง วันที่ 31 สิ้นปี...พี่ประเวศจัดให้ค่ะ...พี่เค้าชวนไป count down ที่บ้านพี่เค้าอีกครั้ง...ก้อมีพี่อ้อมอีกครอบครัวหนึ่ง...รวมกันสามครอบครัว...ก้อ..อบอุ่นไปอีกแบบ....ตามประสาคนไทยในต่างแดน..
ที่บอก..ยุ่นสามารถกลับได้เพราะที่ศูนย์มิสก้อปิดเรียนเหมือนโรงเรียนทุกอย่าง เราต้องให้การบ้านเด็กสามอาทิตย์ เรียกว่าเด็กกลับมาสัปดาห์แรก ครูผู้ช่วยหัวหมุนเลย เพราะต้องลง record กันวุ่นวายเลยแหละ..สามอาทิตย์...คูณจำนวนนักเรียน..ก้อหนาวพอควร..แต่ถ้าเป็นที่ไทย ต้องตรวจการบ้านนักเรียนสามอาทิตย์..ตายแน่ๆเลย..
เอาเป็นว่ากลับเข้าเรื่องคริสมาสต่อดีกว่า..สิ่งที่ยุ่นชอบในช่วงเทศกาลนี้..อึม.. จริงๆก้อไม่เชิงนะ...แต่เพราะยุ่นไม่ได้ไปเที่ยวไหน ไม่ได้ไปสังสรรค์อะไรมากมาย.. ต้องอยู่บ้านมากกว่าตอนปกติ...ก้อเลยได้นั่งดูทีวีเป็นส่วนใหญ่ และยุ่นเป็นคนชอบดูหนังแบบจบเป็นเรื่องๆ...ซึ่งช่วงนี้ก้อเรียกว่าได้ดูแบบกระหน่ำ...ดูมาดูไปก้อ in และมันก้อชอบเหมือนกัน...
พอใกล้เทศกาลคริสมาสของทุกปี..เห็นเหมือนกันทั้งสามปีตั้งแต่มาอยู่ พอเข้าเดือน December เค้าก้อจะเริ่มเอาหนังคริสมาสมาฉาย..ยุ่นว่าดีนะ....เนื้อเรื่องก้อแบบเป็นชีวิตของคนที่นี่. ... มีหลากหลายแบบหลายรส....แต่เค้าผูกเรื่องได้น่ารัก โดยผูกเรื่องราวในครอบครัวให้เข้ากับความเชื่อ ความศรัทธาในศาสนาคริสต์..ก้อคือช่วงคริสมาสเนี่ยแหละ....ซึ่งมักจะจบด้วยการแนวคิดที่ว่าการมีครอบครัวที่อบอุ่น..เป็นพื้นฐานที่สำคัญของสังคม..
ยุ่นดูแล้วชอบ..มีหลายเรื่อง...ดูแล้วซึ้ง..เรียกน้ำตาเป็นปี๊บๆเลย....และให้เห็นว่าจริงๆ..สำหรับฝรั่งเรื่องครอบครัวกับเทศกาลคริสมาสเนี่ย...มันสำคัญสำหรับพวกเค้ามากๆเหมือนกัน....และทำให้เราเข้าใจวัฒนธรรมและความคิดหลายๆอย่างของเค้ามากขึ้น...
อย่างวันก่อนได้ดูเรื่องหนึ่ง.. เรื่อง Santa Suit เป็นหนังธรรมดาๆนี่แหละ..เหมือนพระเอกเป็นคนที่รวยมาก มีทุกสิ่งอย่างในชีวิต แต่ไม่เคยสนใจในความรู้สึกของคนอื่น ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน และไม่มีชีวิตครอบครัวไง มีแต่งานและเงิน...แต่ Santa แบบเหมือนมาแกล้งเค้าทำให้ทุกคนมองเห็นพระเอกจากนักธุรกิจกลายเป้น Santa Claus ซึ่งทำให้เค้าทำธุรกิจของตัวเองไม่ได้ เพราะหน้าตาเค้าเปลี่ยนเป็น Santa ใส่ชุด Santa ตลอด..ถอดไม่ได้...
พระเอกก้อกลายเป็นคนไม่มีอะไรเลย ต้องไปหางานทำ ก้อต้องเป็น Santa ที่มาถ่ายรูปกับเด็กๆใน mall และต้องไปอยู่บ้านแบบเหมือนพวก homeless ซึ่งงานนี้ทำให้พระเอกได้เข้าถึงจิตใจของคนอื่นๆโดยเฉพาะเด็กๆ..และพระเอกก้อได้ย้อนถึงชีวิตในวัยเด็กของตัวเอง...และเข้าใจว่าแท้จริงเค้าเองต้องการอะไร..และควรจะมีการให้แก่คนรอบข้างด้วย...ไม่ใช่จะเอาแต่ take..
เรื่องนี้ก้อให้แง่คิดหลายๆมุมนะ....และพอดูเรื่องนี้จบทำให้ยุ่นเข้าใจว่า..อึม..ไอ้ที่เราสงสัยตั้งแต่ปี 08 ที่เรามาที่นี่ เวลาเทศกาลคริสมาส เราเห็นห้างต่างๆ..จะมีทำซุ้มคริสมาสสวยงาม...และมี Santa Claus มาถ่ายรูปกับเด็กๆทุกปี เสียสตางค์ด้วยนะ..ทำไมเค้านิยมกันจังเนี่ย...ไม่โดนใจเราเลย..แพงก้อแพง..ฮิตได้ไงเนี่ย...
แต่ปีนี้พอเราได้ดูหนังเรื่องนี้ ทำให้เราเข้าใจ culture และความคิดความเชื่อของเค้า ยุ่นก้อเลยลองยืนสังเกตุการณ์เวลาไปห้าง....ทำให้เราได้เห็นภาพน่ารักๆมากมาย...เราจะเห็นพวกเค้า ส่วนมากจะเป็นฝรั่ง เอเชียมีบ้างแต่น้อย..เข้าคิวเพื่อจะถ่ายรูปกับ Santa คิวยาวนะ ไม่ใช่สั้นๆ..ลูกค้าก้อจะเป็นเด็กเล็กส่วนมาก..ก้อตั้งแต่ Baby ถึง 6-7 ขวบนะ..พ่อแม่ก้อ line up กับลูกๆ...
พอเค้าถ่ายรูปเสร็จ เค้าจะมีเวลาให้เด็กได้คุยกับ Santa แบบสองต่อสองอ่ะ...เด็กผู้หญิงคนหนึ่งหน้าตาน่าร๊าก....นั่งคุยกับ Santa มีการกระซิบด้วยนะ..แบบนานมากๆๆๆๆเลย ยุ่นว่าต้องมีสิบนาทีนะ..เค้าก้อไม่ว่า ให้คุย..Santa ก้อคุยไปแบบใจดีมาก...เราเห็นเรายังชอบใจเลย..แบบเป็นภาพที่น่ารักมากเลย..จากนั้น ลุง Santa ก้อเดินไปทักทายและคงบอกคุณปู่ คุณย่าว่าหลานกระซิบอะไรมั้ง
และพอคุยเสร็จ..ลุง Santa ก้อจะให้ขนมลูกกวาดที่เป็นรูปไม้เท้าเล็กๆกับเด็กๆ...ซึ่งนี่ก้อเป็นความสุขเล็กๆน้อยๆของเด็กๆที่ได้มีโอกาสคุยกับ Santa ตัวเป็นๆ...สำหรับเด็กๆ..เค้าก้อคงมีความลับ มีความในใจที่อยากจะบอก Santa ซึ่งเค้าเชื่อว่า Santa จะมาหาพวกเค้าปีละครั้ง "Santa Claus is coming to town".. และเค้าเชื่อว่ามันจะเกิด miracle ขึ้นได้ในช่วงนี้ ซึ่งอาจทำให้เค้าสมหวังอะไรประมาณนั้น..
ยุ่นคิดว่าแต่ก่อนอาจจะไม่เสียสตางค์...แต่ตอนหลังพวกห้างต่างๆ...ก้อเอาเรื่องนี้มาทำเป็นการค้าขายไป...เลยมีการถ่ายรูป...และพูดคุยกับ Santa แบบเสียสตางค์...เลยทำให้เรารู้สึกมันไม่ขลังมั้ง !?!
อย่างไรก้อตาม...คิดถึงถ้าเป็นเรานะ..ตอนเด็กๆ..เราก้อคงมีความสุขเหมือนกันที่ได้ทำแบบนี้...และทำให้เข้าใจว่ามันไม่ใช่แค่การถ่ายรูปนะ..จริงๆมันก้อมีความหมายบางอย่างแอบแฝงอยู่ และนี่ก้อทำให้ยุ่นถึงบางอ้อว่า...ทำไมซุ้ม Santa จึงมีทุกห้างและได้รับความนิยมมากมายอย่างนี้ทุกปี...... ^^
No comments:
Post a Comment