Saturday, April 13, 2013

BANANA vs. OREO in slang terms

เมื่อสองสามอาทิตย์ที่แล้ว...จีจีนักเรียนที่ยุ่นสอนเลขมาเกือบ 4 ปี ...ว๊าว...เร็วเหมือนกันนะเนี่ย 4 ปีแล้ว...เค้ามาเล่าเรื่องที่ยุ่นฟังแล้วมีความรู้สึกตลกและน่ารักดี...

จีจีเล่าว่า...หากเด็กเอเชียที่เกิดที่นี่ หรืออยู่ที่นี่ตั้งแต่เด็ก คือเรียกว่ากลืนเข้ากับวัฒนธรรมที่นี่..เด็กฝรั่งที่นี่เค้าจะเรียกพวกเด็กเอเชียนี้ว่า BANANA ซึ่งก้อหมายความว่าข้างนอกเหลืองแต่ข้างในขาว....ส่วนเพื่อนจีจีคนหนึ่งเค้าเป็นเด็กผิวสี  เพื่อนๆก้อจะเรียกว่า OREO

in slang terms, OREO means a black person who acts like a white person. 

"Black on the outside, white on the inside" and BANANA means " Yellow on the outside, white on the inside"
















เราฟังเสร็จ เราก้อบอกน่ารักดี แต่จีจีบอกเพื่อนเรียกเค้าว่า Banana เค้าไม่ชอบ เพราะจริงๆก้อคือการแบ่งแยกนั่นเอง หรือ racism

เรื่องนี้จีงเป็นความรู้ใหม่สำหรับยุ่น..  และก้อต้องยอมรับว่าเค้าเข้าใจคิดคำ slang เปรียบเทียบนะ  และสำหรับเราผลไม้กับคุ๊กกี้มันก้อดูน่ารักดี  แต่ในความรู้สึกเด็ก หรือคนที่ถูกว่า  เค้าไม่ได้รู้สึกว่าน่ารักกับเราด้วย...^^

นอกจากนี้ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ก้อเป็นความรู้จาก instructor คนใหม่ที่เข้ามา take over KUMON แทน Ms. Ting..เธอชื่อ Ms. Ann Ran  เธอเป็นคนจีนจากแผ่นดินใหญ่แต่มาอยู่ที่นี่ตั้งแต่อายุประมาณ 20 มั้ง ก้ออยู่มา 20 ปีแล้ว แต่งงานมีครอบครัวที่นี่เรียบร้อยแล้ว

มีอยู่วันหนึ่ง  มิสแรนก้อแซวพวกครูผู้ช่วยสองสามคนที่เรียนคุมองว่า อยากเรียนจบเป็น completer มั้ย...เด็กๆก้อบอกไม่อยากเท่าไร  เด็กอีกคนที่เพิ่งจบเป็น completer วิชาภาษาอังกฤษ (และได้ของขวัญจากคุมองเป็นนาฬิกาคลาสสิคนะ สวยน่ารักมาก  ยุ่นเองยังชอบเลย  พร้อมสลักชื่อบนนาฬิกาด้วย  เท่ห์มากๆ...) ก้อเชียร์ว่า พยายามหน่อยนะ จะได้ได้นาฬิกา completer...แต่ไม่ work พวกผู้ช่วยอื่นๆไม่อยากจบ  แต่อยากจะขอลาออก ไม่อยากเรียนต่อ... มิสแรนก้อเลยพูดติดตลกไปว่า...สงสัยพวกนี้ไม่อยากได้นาฬิกา เพราะตามธรรมเนียมจีน  มันไม่เป็นมงคล...

ทุกคนก้องง..และถามว่ายังไง มิสแรนก้อเล่าว่า คนจีนจะถือมากๆหากใครให้นาฬิกาเป็นของขวัญ เพราะนั่นหมายความว่าแช่งผู้ที่ได้รับให้ตายไวไว  คือพูดง่ายๆว่าคุณเหลือเวลาในชีวิตน้อยลงแระ... เพราะฉะนั้น คนจีนจึงไม่ให้นาฬิกาเป็นของขวัญซึ่งกันและกัน.....ก้อเลยทำให้ทุกคนอึ้งกิมกี่       ว่ามีความคิดแบบนี้ด้วยเหรอ...

และนี่ก้อคือต่างวัฒนธรรม ต่างความคิด.. แม้จะเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆ แต่ก้อมีความสำคัญในการที่เราควรจะเรียนรู้และปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมนั้นๆด้วยความเข้าใจ....:)











No comments:

Post a Comment