Friday, July 9, 2010

Vancouver Translink









อยู่กรุงเทพ..เวลาเดินทางไปไหนมาไหน ยุ่นก้อจะขับรถ..ก้อเรียกว่าหลังเรียนจบก้อขับรถเลย... จำได้ว่าพ่อกับแม่ซื้อรถ Toyota Starlet สีดำให้หนึ่งคัน เพื่อให้ยุ่นใช้ขับทำงาน..เพื่อความสะดวกสบาย...และถ้าย้อนลงไป ตั้งแต่เรียนมหาลัยลงไปถึงมัธยมต้นที่พระหฤทัยคอนแวนต์ ยุ่นต้องนั่งรถเมล์ไปโรงเรียนและก้อมหาลัยเอง

การนั่งรถเมล์บ้านเรา ในสมัยนั้นก้อประมาณสามสิบปีที่แล้ว...ยุ่นก้อต้องใช้วิทยายุทธพอสมควร และก้อเป็นการฝึกวิทยายุทธหลายกระบวนท่าเหมือนกันนะเนี่ย....จริงๆคิดอีกทีก้อดีเหมือนกัน..เหมือนเราเข้าโรงเรียนอะไรที่มันยากแล้วไง ถ้าเราผ่านตรงนี้ได้.. อย่างอื่นก้อสบายมากสำหรับเรา..


ยกตัวอย่างเช่น..การจะขึ้นรถเมล์เมืองไทยไม่ได้ขึ้นกันได้ง่ายๆ..เราต้องวิ่งให้ทันรถเมล์ ตอนขึ้นก้อต้องไวพอควร ไม่งั้นรถออกก่อน บางครั้งเคยเหมือนกันขาขวาเพิ่งขึ้นไป ขาซ้ายยังลอยอยู่เลย..แต่พี่คนขับออกรถไปแล้ว...

หรือเวลาที่อยู่บนรถเนี่ย..ซึ่งส่วนใหญ่ norm ของรถเมล์ไทย คนต้องแน่นเข้าไว้...แล้วเวลาคนแน่นๆเนี่ย..เราเป็นผู้หญิงใช่มะ..ก้อยืนเบียดกับผู้คนมากมาย...ก้อต้องระวังตัวมากกว่าพวกผู้ชาย...บางครั้งพวกโรคจิตก้อมีเหมือนกัน ขโมยขโจรก้อไม่น้อย...ก้อเรียกว่าต้องระวังตัวรอบด้าน จำได้ว่าคุณยายเคยสอนว่า ให้เอาเข็มซ่อนในผ้าเช็ดหน้า ถ้าใครทำมิดีมิร้ายกับเรา ก้อแกล้งหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา แล้วจิ้มมันลงไปเลย...แต่ไงอ่ะ..ยุ่นไม่กล้าทำนะ..ตอนนั้นเราก้อยังเด็ก ม.ศ. 2 กลัวว่าถ้าเราทำเค้า แล้วเดี๋ยวเค้าจะทำร้ายเรากลับ...จำได้ว่า..เราก้อพยายามเดินชิดใน และหนีห่างคนประเภทนี้ให้มากที่สุด...

และเวลาอยู่บนรถเมล์ เราต้องมีการทรงตัวที่ดีเยี่ยม...จะยืนอย่างไร ขาเราต้องห่างกันเท่าไร ทำมุมกี่องศา มือต้องยึดจับอย่างไร เพื่อให้ตัวเรา stable ที่สุด...ไม่ว่ารถจะอยู่ในความเร็วเท่าไร..เราต้องมั่นคง..หนักแน่นเข้าไว้...เพราะพี่คนขับ..จะขับรถตามอารมณ์ของพี่ เรียกว่าชีวิตและความปลอดภัยของคนใช้บริการรถเมล์อยู่ในอุ้งเท้าของพี่เค้า...เพราะฉะนั้น...เราต้องตื่นตัว รู้ตัว ระวังตัวตลอด...ซึ่งยุ่นว่า ก้อเป็นประสบการณ์ที่ดี ทำให้เราได้เรียนรู้การอยู่รอดในสังคมอีกรูปแบบหนึ่ง...ซึ่งก้อไม่ได้หาได้ง่ายๆในชีวิตคนๆนึงนะ เพราะบางคนชีวิตนี้อาจไม่เคยขึ้นรถเมล์ โดยเฉพาะรถเมล์ไทย อีกทั้งไม่ได้หาได้ง่ายๆในโลกนี้ เช่นพวกฝรั่งหรือประเทศที่พัฒนาแล้ว เค้าก้ออาจไม่เคยได้สัมผัสชีวิตแบบนี้...555555


และถ้ายิ่งได้เจอพวกสองแถวของพี่ไทยละก้อ...ขอบอก..เหมือนคุณได้ผ่านประสบการณ์ขั้นเทพในการขึ้นรถเมล์เลยแหละ... >.<


ที่เล่ามาทั้งหมดเนี่ย ก้อเพราะพอยุ่นได้มาอยู่ที่แวนคูเวอร์..การจะเดินทางไปไหนมาไหน ถึงแม้ยุ่นจะไม่มีรถใช้ ต้องใช้บริการรถเมล์ที่นี่ ก้อแบบสะดวกสบายมากๆ.. และไม่ต้องเรียนรู้การเอาตัวรอดบนรถเมล์เลย...เพราะเราได้ผ่านความลำบากในการขึ้นรถเมล์ไทยมามาก ..นับตั้งแต่การจะขึ้นรถเมล์หรือขึ้น translink อะไรของเค้า ก้อเข้าแถวหมด...คนขับรถก้อขับดีมาก...นานๆก้อมีเจอเหมือนกันที่ขับรถเร็ว...แต่ก้อไม่เป็นปัญหาสำหรับเรา ฉะนั้น ที่แวนคูเวอร์การขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้าต่างๆ...จึงเป็นเรื่องเรื่องชิวชิว children childern มากๆเลย...

ที่นี่ถ้าเรียกแบบบ้านเราคือ ขสมก. ใช่มะ...ของเค้าจะเป็นของรัฐบาลทั้งหมด..มีสี่ชนิดที่เราสามารถใช้บริการได้
1. Bus
2. Sea Bus
3. Sky Train
4. Canada Line

ทุกอย่างที่บอกมานี่ เราใช้ตั๋วเดือนก้อได้ ซื้อตั๋วเป็นเล่มก้อได้ หรือหยอดเงินเอาแต่ละครั้งก้อได้ ทุกยานพาหนะเนี่ยใช้ตั๋วเหมือนกันหมด...โดยกำหนดหนึ่งตั๋ว 90 นาที นอกจากตั๋วเดือนเท่านั้นที่ไม่มีกำหนดเวลา และใช้ได้ทั้งเดือน..นอกจากนี้ค่าตั๋วจะถูกหรือแพง ขึ้นกับ zone ในการเดินทาง แบ่งเป็นสามโซน ยิ่งไกลก้อยิ่งแพง...

สิ่งที่ยุ่นชอบมากๆของที่นี่คือสี่ยานพาหนะเนี่ย มัน link กันได้หมด..แล้วก้อเวลาจะไปไหนถ้าเราไม่รู้จัก ไม่เคยไป..ไม่ต้องกลัว เราสามารถเข้าไปใน www.translink.ca ซึ่งเป็นของรัฐ เราก้อใส่เลย เราอยู่ที่ไหน จะไปไหน วันไหน เวลาอะไร เค้าจะบอกเราเลยว่าเราสามารถไปที่จุดหมายปลายทางของเราได้กี่วิธี นั่งรถต่ออะไรยังไง..ใช้เวลาเท่าไร ใช้เงินเท่าไร..รถเมล์มาเวลาอะไร..แบบนี้เลยอ่ะ..ถึงที่หมายเวลาอะไร...แบบเวลาเป๊ะๆเลย

เพราะฉะนั้น โอกาสไปถึงที่หมายไม่ตรงเวลามีน้อยมาก...มิน่า คนที่นี่เค้าจะตรงเวลามาก..สมมตินัดสี่โมงใช่มะ..พอเข็มยาวจบเลข 12 นะ กระดิ่งหน้าบ้านดังเลย..แบบเป็นอย่างนั้นจริงๆนะ...ทำให้เราเรียนรู้ว่า คำว่าตรงเวลาของฝรั่งเนี่ย..มันเป็นอย่างนี้จริงๆ.. อย่างนี้ต้องใช้ on time...และที่นี่เวลานัดนะ จะ on time ทั้งนั้น ไม่ค่อย in time นะ ยุ่นว่าของเค้ากำหนดได้ แต่ยุ่นจะไปก่อนเวลาเสมอนะ..เพราะเราก้อกลัวไม่ทันไง..แบบเราก้อจะยังคิดและติดแบบตอนอยู่เมืองไทย ต้องไปก่อนเวลานัด เผื่อรถติด..

นอกจากนี้ การขึ้นรถเมล์ที่นี่ ขึ้นง่าย ถนนแต่ละสายมีรถเมล์เบอร์เดียว เช่น ถนน 41 ก้อสาย 41 วิ่งทั้งสาย ถนน Main ก้อสาย 3 วิ่งทั้งสาย Fraser ก้อสาย 8 วิ่งทั้งสาย แล้วแบบเวลาเราจะไปไหนใช่มะ เราเพียงรู้ว่าถนนอะไรตัดกับอะไร เราก้อขึ้นรถเมล์ไปเองได้


ยกตัวอย่าง เช่นไปทำงานที่ศูนย์มิสติง ศูนย์คุมองอยู่ระหว่าง 41 ตัดกับ Fraser ถ้าบ้านเราอยู่ 49 เราก้อนั่งเบอร์ 49ไปทาง east เสร็จพอถึงแยก Fraser ก้อลง ต่อสายแปดมุ่งหน้าเข้า downtown เพราะเบอร์น้อยลงแปลว่าเข้า downtown ถ้าหลงทิศแบบยุ่น ก้อจำว่าเห็นภูเขาคือเข้า downtown และพอถึงถนน 41 เราก้อลง เดินนิดหน่อยก้อเจอศูนย์แล้ว..

พูดเนี่ยอาจงง..แต่เวลามาที่นี่นะ แป๊บเดียว นั่งเป็นเลย ง่ายมากๆเลย..และยังมีเรื่องเจ๋งกว่านี้อีกคือ เวลายืนรอรถเมล์แต่ละป้าย ถ้าเราอยากรู้ว่าอีกนานแค่ไหนรถที่เรารอจะมา เราก้อสามารถกดเข้า translink แล้วใส่ number ป้ายที่เรายืนรอรถ..สักพักเค้าก้อจะมีข้อความส่งมาว่าอีกกี่นาที รถจะมาที่ป้ายที่เรารอ...ไม่ได้บอกคันเดียวนะ บอกเป็นลำดับเลยว่าคันแรกอีกกี่นาที คันต่อไปอีกกี่นาที...และขอบอก...ตรงเวลาแบบนั้นจริงๆ...

พูดถึงการขึ้นรถเมล์ ตอนแรกที่มาก้อมีเรื่องฮาเฟอะฟะของยุ่นนะ..เนื่องจากอยู่บ้านเราก้อจะติดนิสัยวิ่งตามรถเมล์ใช่มะ..วันนั้นไปซื้อของกับฮ่ง กำลังข้ามถนนเพื่อจะมาอีกฝั่ง รถเมล์เบอร์ที่เราต้องขึ้นขับมาพอดี แต่ยังไม่จอดป้ายนะ จังหวะที่เรายืนรอไฟเขียวเพื่อข้ามถนน ตายุ่นก้อมองไปที่รถคันนั้น แต่ใจเนี่ยมันขึ้นไปอยู่บนรถแล้ว คือพูดง่ายๆกายละเอียดอยู่บนรถแล้ว แต่กายหยาบยังวนเวียนอยู่บนถนน...และก้อมุ่งมั่นมากว่า "เดี๋ยวฉันต้องขึ้นให้ทันรถคันนี้ให้ได้"


เสร็จพอไฟเขียวปั๊บ เจ๊ก้อวิ่งนำเลย ลืมไปว่าฮ่งมาด้วย..สัญชาตญาณการเอาตัวรอดสูงเกินไปหน่อย..ฮ่งก้อวิ่งตามมาแล้วเค้าก้อไปยืนต่อแถวคนรอขึ้นรถเมล์.. แต่ยุ่นสิ..ไม่สนใจอะไรเลย พอประตูรถเปิดปั๊บ ก้อวิ่งด้วยอัตราเร็วสูงมาก...ฟ๊วบ...ขึ้นไปอยู่บนรถเมล์แล้ว..
เฮ้อ..ขึ้นทันจนได้..รู้สึกเหมือนปฏิบัติการสำเร็จ..ภูมิใจไงไม่รู้...

ฮ่งก้อเดินมานั่งข้างๆแล้วบอกว่า "ยุ่นทำอะไรรู้ตัวมั้ย"..ยุ่นก้อบอก "ทำไมเหรอ"..ไม่รู้เรื่องอะไรเลย หน้าแบบinnocent สุดๆ ฮ่งบอก...

"ก้อเธอนะวิ่งแซงตัดหน้าคนอื่นที่เค้ายืนรอขึ้นรถเมล์ตรงหน้าประตูรถนะ...ฮ่งก้องงมากเลยนะ..ว่าอะไรวะ เหมือนมีวัตถุที่มีความเร็วสูงมากวิ่งผ่านหน้าไป ตาฮ่งยังไม่ทันกระพริบเลย ไอ้ยุ่นหายไปแล้ว"

ตอนนั้นรู้สึกหน้าแตก แล้วก้ออายสุดๆ..ทำได้ไงเนี่ย แล้วยังไม่รู้อีกว่าตัวเองทำผิด..นี่ดีนะเนี่ยเค้าไม่มาด่าเอา...คือตอนนั้นเดือนเมษา 2008 ไปส่งยีน ยังไม่ได้อยู่ แล้วก้อขึ้นรถเมล์ครั้งที่สองอะไรประมาณนั้น ยังไม่คุ้นกับการเข้าแถว และรอคอยไง..memory เก่าตอนขึ้นรถเมล์ที่เมืองไทย ยังสั่งว่าต้องวิ่งให้ทันรถ...55555 แต่เดี๋ยวนี้ หายแล้วนะ...เดี๋ยวนี้ยืนเข้าแถวเรียบร้อย..ให้คนแก่และเด็กขึ้นก่อน...ดูดีมีวัฒนธรรมมากขึ้นมาก...เข้าเมืองตาหลิ่วก้อต้องหลิ่วตาตาม..


กลับมาเรื่องเดิมดีกว่า...ยิ่งตอนนี้มี Canada Line เนี่ย เค้าจะเชื่อมจุดใหญ่ๆที่คนใช้บริการมากๆ..พอลงจาก Canada Line คุณก้อต่อรถเมล์ หรือ Sky train หรือ Sea bus ก้อได้ เรียกว่าทำมาเพื่อใช้ประโยชน์คุ้มค่า เต็มที่จริงๆ..ยุ่นถึงบอกว่าครอบครัวเราจึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องซื้อรถเลย..เพราะหากมีรถ..ค่าที่จอดรถเนี่ย แพงมากๆ ขนาดเช่า apartment ก้อต้องเสียค่าเช่าให้รถเราด้วยนะ เดือนนึงก้อ 50 เหรียญ ไปข้างนอก shopping ก้อต้องดูเวลานะ..เค้ามีบอกจอดได้กี่นาที....หรือบางที่ซึ่งก้อส่วนใหญ่ต้องเสียค่าที่จอดรถ ก้อเรียกว่าราคาค่อนข้างสูง..สิ่งเหล่านี้ก้อเป็นอะไรที่เราต้องคำนึงมากเลยในประเทศเหล่านี้...

คือบ้านเราเห็นถนนด้านข้างว่างๆเนี่ย เราจอดได้ แต่ที่นี่หากซี้ซั้วไปจอด.. จะมีผู้ปรารถนาดีโทรศัพท์แจ้งตำรวจ และก้อจะมีตำรวจเอาใบสั่งมาเสียบให้เราที่หน้ารถได้ง่ายๆเลย...เพราะเราไปจอดที่ของคนอื่น..หรืออย่างในห้างเค้าบอกจอดได้หนึ่งชั่วโมง แบบเค้าไม่มีบัตรให้นะเวลาเข้า ไม่มียามไม่มีอะไรเลย..ยุ่นก้อสงสัยทำไม ไม่มีใครดู..อย่างนี้เราก้อจอดได้นานเท่าที่เราต้องการ

แต่เพื่อนบอกไม่ได้..เค้ามีวิธีตรวจเช็ค เค้าจะมีคนตรวจตลอด..ถ้าเราจอดเกินที่เค้าบอก เค้ารู้ และเค้าก้อจะเขียนใบปรับเงินเรา..ซึ่งแพงมากๆนะ ที่นี่นะ..เพราะกฏก้อคือกฏ...และเค้าใช้ honest system เค้าเชื่อใจแต่ก้อมีวิธีตรวจสอบทีเ่ข้มงวด...ฟังแล้วก้อสยองเหมือนกันนะเนี่ย..

ท้ายเรื่องนี้ ยุ่นก้อแนบรูป Bus...Sea Bus...Sky Train & Canada Line....ซึ่งเป็นของ translink ใน Vancouver มาให้ดูด้วย.....ยุ่นว่า Canada line กับ Sky train ก้อคล้ายๆกับ BTS บ้านเรานะ...

5 comments:

  1. สิ้นเดือนนี้ Airport Link ก็จะเปิดใช้แล้วนะ พี่ยุ่นกลับมาคราวหน้าได้ใช้แน่ แต่ BTS สายสำโรงเสร็จมาตั้งชาติแล้ว ยังไม่เปิดใช้เลย :(

    ReplyDelete
  2. อยากรู้ว่า ภาพไหน เป้น Sky train กับ Canadian line น่ะ หรือ ทั้ง2อย่างหน้าตาเหมือนกัน ถ้าหากเหมือนกัน มันต่างกันตรงไหน ถึง เรียกชื่อต่างกัน

    ReplyDelete
  3. ก้อไม่เข้าใจนะ ชื่อต่างกันแต่ที่จริงก้อเหมือนกันนะ..อึม..รูปแรกเลย คือ Sky train ส่วนรูปที่ติดกับ bus คือ Canada line อึม..เท่าที่เห็นความต่างคือ sky train จะวิ่งแบบ BTS บ้านเรา อยู่ข้างบน เหนือดิน คล้ายๆลอยฟ้า

    แต่ Canada line อยู่ใต้ดินนะ...แต่ก้อมีบางช่วง เช่นไป richmond เค้าจะผ่านฟ้าเหมือนกัน ไม่รู้เพราะดินที่ richmond ไม่ค่อยแข็ง แน่นรึปล่าว.. อันนี้เดาเอง เห็นคนที่นี่เค้าบอก richmond ดินจะอ่อน...

    เพราะฉะนั้น ความต่างคงเป็น Canada line ใต้ดิน ส่วน Sky trainบนฟ้ามั้ง !

    ReplyDelete
  4. อยากไปเที่ยวจริงๆๆๆๆนะ
    คิดถึงจ้ะ
    พี่อุ้มเอง

    ReplyDelete
  5. วันก่อนเพื่อนที่อยุ่ที่นี่เล่าให้ฟังว่า สามีเพื่อนเค้าทำงานเป็นคนขับรถเมล์ Bus Driver เนี่ย รายได้ดีมั่กๆ..ปีละ 70,000 เหรียญ ก้อตกเดือนละเกือบ 6000 เหรียญ คิดเป็นเงินไทยก้อประมาณ เดือนละเกือบแสนแปดหมื่นบาท..ฟังแล้ว..เลยบอกฮ่ง..เราน่าไปสมัครเป็นคนขับรถเมล์ดีกว่า..

    ฮ่งบอกปีก่อนรัฐบาลเค้าประกาศรับสมัคร Bus Driver คนแวนคูเวอร์สมัครกันมากกว่าสามหมื่นคน แค่ตำแน่งเดียว พระเจ้า...

    และขอบอก Bus Driver ที่นี่ใหญ่มาก..เค้ามีสิทธิ์ไล่ผู้โดยสารที่ไม่เหมาะสมลงจากรถ...มีสิทธิ์ไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารที่ไม่เหมาะสมขึ้นรถ..โทรศัพท์เรียกตำรวจ...มากมายหลายเรื่อง เพราะฉะนั้น..เค้าคงต้องคัดสรรอย่างแน่นอน...มิน่า..รายได้ดี...สวัสดิการเยี่ยม..คนแย่งกันสมัคร...

    ReplyDelete