พูดถึงเด็กคนอื่นมากมาย ไม่ค่อยได้เล่าถึงลูกชายของตัวเองเลย...ยีน สิรปารย์ ตากวิริยะนันท์ แต่ที่นี่ ยีนจะกลายเป็น middle name ของเค้าไปแล้ว เพราะครูเขียนใน report card ว่า Siraparn Gene Takviriyanan
ยีนมาเรียนที่นี่ตั้งแต่ปีที่แล้ว ตอนมาแรกๆก้อต้องสอบข้อสอบของทาง Vancouver School Board ก่อน ก้อจะมีเลข กับอังกฤษ เลขเนี่ยยีนก้อค่อนข้างใช้ได้ ถ้าจำไม่ผิดของเกรด 10 ผิดข้อเดียว เลยไม่ต้องเรียน เค้าให้ข้ามไปเรียน math 11 เลย
ส่วนอังกฤษ ก้อเรียกว่าพอใช้ได้ เพราะเด็กที่มาที่นี่ส่วนใหญ่แรกๆทุกคนต้องเรียน ESL Class ( คือเค้าจะมี ESL , transition และ regular) ขึ้นกับพื้นฐานอังกฤษของเรา แต่ยีนหลังสอบเสร็จได้เรียน Eng 10 transition ก้อเรียกว่าไม่ธรรมดาเหมือนกัน คือยุ่นเองก้อดูเค้าแบบเหมือนไม่ใส่ใจ ไม่ตั้งใจ แต่ผลออกมาก้อเป็นที่น่าพอใจ..
ปีที่แล้วยีนเรียนเกรด 10 ทุกวิชา มีแต่เลขเท่านั้นที่เรียนเกรด 11...... และปีนี้เค้าเรียนเกรด 11 วิชาอังกฤษ Social พวกวิชาที่ต้องมีอังกฤษเป็นพื้น...ยีนได้ขึ้นมาเรียน regular class แล้ว..เรียกว่าเหมือนธรรมดาของเด็กที่นี่ทุกอย่าง ...ส่วน math ก้อเรียนของเกรด 12......ซึ่งถือว่าเป็นข้อได้เปรียบ เพราะปีหน้าตอนเกรด 12 เค้าสามารถเรียนวิชาของมหาลัยได้ โดยไม่ต้องเสียค่าหน่วยกิตด้วย...ถือว่าเป็นสิ่งที่เราทำได้ และยังอยู่ในช่วงอายุ 18 ปีที่รัฐบาลให้เรียนฟรี...แต่ถ้าเราเรียนในมหาลัย เราก้อต้องเสียค่าหน่วยกิตเหมือนคน Canadian คือเค้าคิด 25%ของราคาปกติ ..ก้อเรียกว่าสามารถช่วยพ่อแม่ประหยัดค่าเล่าเรียนเพิ่มขึ้นได้ด้วย...
ปีที่แล้วการเรียนของเค้าอยู่ในขั้นปานกลาง ไม่ดีมากและก้อไม่แย่มาก ยีนเป็นคนที่มีหลักการในตัวเองสูงมาก คือยึดมั่นการเดินสายกลาง เค้าจะไม่เรียนหนักไป เบาไปก้อไม่ได้ แต่ในสายตาของยุ่น ยุ่นรู้สึกว่าเรียนเบามาก...เค้าจะพอใจในเกรดที่ได้..สบายๆทั้งปี คะแนนก้อออกมาสบายๆตามสไตล์คุณยีน ก้อได้ B ได้ C ประมาณนี้ รู้สึกโดยรวมได้ เกรดสามหน่อยๆ... ซึ่งเค้าเองเค้าพอใจสำหรับผลงานปีแรก..นี่เป็นคำพูดของยีน ที่ยึดมั่นการเดินทางสายกลางตามคำสอนของพระพุทธเจ้า...รู้สึกจะนำมาประยุกต์ใช้ผิดทาง
แต่ปีนี้เกรด 11 ยุ่นก้อบอกเค้าเลยว่า ผลการเรียนต้องมีการพัฒนา ต้องดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ไม่เช่นนั้นจะเริ่มมีการลงโทษ...ปีนี้อาจด้วยเค้าโตขึ้น และเพื่อนที่คบก้อเปลี่ยนกลุ่ม และกลุ่มนี้ก้อมีการช่วยเหลือกันดี อาจเริ่มมีการคุยเรื่องการเข้ามหาลัย ทำให้ยีนมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น คือยังไง...พ่อกับแม่ก้อรอคอยการเปลี่ยนแปลงของลูก..ไม่ว่าจะเมื่อไร อย่างไร..เราก้อรอได้
ปีนี้คณิตศาสตร์บังเอิญได้ครูดี ถูกใจเค้า เป็นครูที่เก่งมาก และออกข้อสอบยาก แต่เค้าชอบสไตล์นี้ เค้าบอกเวลาเพื่อนบอกครูีคนไหนดี พอเค้าไปเรียนเค้าไม่ชอบ แต่ครูที่ทุกคนบอกไม่ดี เวลายีนเรียน ยีนจะชอบ ไม่รู้เป็นไง ก้อเลยบอกเค้าว่าลองเรียนและตัดสินใจเอง ไม่ต้องเชื่อคนอื่น..เพราะแต่ละคนมีวิธีการ และการรับรู้แตกต่างกัน..
จึงเป็นโชคดีของเค้าที่เค้าได้ครูเลข ครูเคมี ครูสังคม ที่เค้าชอบ..และผลออกมาเทอมหนึ่งคะแนนเลข ฟิสิกส์ เคมี อยุ่ในเกณฑ์ดีมาก A กับ B คือตัวเค้าเองเค้าก้อรู้สึกงง แต่ยุ่นก้อถามเค้าว่าคิดว่าทำไมถึงได้คะแนนดี เค้าบอกเพราะเค้าอ่านและทำความเข้าใจ อย่างฟิสิกส์กับเคมีเนี่ย สอบครั้งแรกคะแนนเรียกว่าแย่มากๆเลย แต่เค้าพยายามอ่าน ทำความเข้าใจ จนตอนหลังได้คะแนน top ของห้อง..ยุ่นก้อเลยเตือนสติเค้าว่า นั่นแหละคือสาเหตุที่ทำไมยีนถึงได้คะแนนดี..
และดูเค้าก้อมีความภูมิใจในตัวเองมากขึ้น...แต่ก่อนเค้าบอกยุ่นเสมอว่าเค้าไม่ชอบเลข แต่ยุ่นก้อบอกเค้าเสมออีกว่าเค้าเก่งเลข เค้าบอกไม่จริงเค้าไม่เก่ง (ไม่รู้เพราะถูกครูยุ่นเคี่ยวเข็นให้ทำคุมองมากไปเลยต่อต้านรึปล่าว??? ) แต่ปีนี้ เจอ Irany ครูเลขคนนี้ ทำให้ยีนเปลี่ยนความคิดเรื่องนี้ไปมาก เค้ารู้สึกว่าเค้าชอบเลขและเค้าก้อทำได้ดี..อย่างที่เค้าไม่เคยคิดมาก่อน..
นอกจากนี้ ยีนก้อยังช่วยติวเลขให้เพื่อนที่เรียน math 11 ด้วย ขณะเดียวกันเพื่อนก้อติวอังกฤษให้ยีน เพราะเพื่อนที่เค้าสนิทจะเกิดที่นี่ ก้อจะมีภาษาอังกฤษที่แข็งแรงกว่า ก้อเรียกว่าเป็นการช่วยเหลือเกื้อกูลที่ดีต่อกัน...
และนี่ก้อเป็นอีกชีวิตหนึ่งที่ต้องปรับตัวและใช้ชีวิตในแวนคูเวอร์ แต่ยีนจะปรับตัวได้ค่อนข้างเร็วและดีกว่าพ่อแม่มาก...โดยเฉพาะเรื่องภาษาอังกฤษ น่าจะก้าวหน้ากว่าพ่อ แม่มากมายเลย...
เรื่องของเด็กคนนี้น่าสนใจจริงๆ มีพัฒนาการดีมาก คือจะบอกว่าเขาคงได้ยีนของพ่อมา คือเดินทางสายกลาง ไม่อยากเด่นอยากดังมาก ซึ่งดูแล้วที่เขาเรียนดีขึ้น เพราะเขาเรียนอย่างเข้าใจ และชอบ ไม่ได้เรียนเพราะถูกบังคับ โอย..สนุกจริงๆ ป้อมว่ายุ่นคงจะว่างมากจริงๆนะ มีเรื่องเล่าสนุกๆทุกวันเลย กลับมาคงได้อ่านรวมเล่มนะ
ReplyDeleteรักและคิดถึงจ๊ะ
ป้อม