แวนคูเวอร์ถือว่าเป็นเมืองที่มีประชาชนหลายเชื้อชาติมาก เรียกว่า multinational จริงๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเีดีย เวียดนาม ยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง ฟิลิปปินส์ มาเลเซียก้อมี มีไทยแซมนิดหน่อย... เรียกว่าเวลาเดินตามท้องถนน หรือเดินในห้าง หรือนั่งรถเมล์ไปไหนมาไหน จะมีหลากหลายหน้าตา หลายเชื้อชาติให้เราเห็น ซึ่งจะแตกต่างจากบ้านเรา ส่วนใหญ่จะเป็นคนไทย คนไทยเชื้อสายจีน หรือคนจีนรุ่นอากงอาหม่า เรียกว่าชาติอื่นๆเราจะเห็นน้อย และดูไม่แตกต่าง...เท่าไรนัก
การที่คนหลายๆเชื้อชาติมาอยู่ร่วมกัน แน่นอนแต่ละเชื้อชาติก้อต้องปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมของที่นี่ แต่อย่างไรก้อตาม แต่ละเชื้อชาติก้อยังยึดหลัก และมีแนวคิด หรือพฤติกรรมที่ถูกปลูกฝังมาในรูปแบบของเค้า...
ยกตัวอย่างการให้ของขวัญในช่วงพิเศษต่างๆของปี..ญี่ปุ่นจะถือว่าการให้ของขวัญด้วยมือทั้งสองของผู้ให้เป็นมารยาทที่ต้องทำ...หรือคนจีนเค้าจะไม่ให้นาฬิกาเป็นของขวัญเลย เพราะคำว่านาฬิกาในภาษาจีนออกเสียงเหมือนคำว่า "จุดจบ" ในภาษาจีน เค้าจึงไม่ให้นาฬิกาเพราะถือว่าเป็นความหมายที่ไม่ดี
หรืออย่างพวกตะวันออกกลาง เ้ค้าจะมีการแลกเปลี่ยนของขวัญในมูลค่าที่เท่ากัน...แต่ทางตะวันตก..การให้ของขวัญจะถือเป็นอะไรที่พิเศษ ...บางครั้งเพื่อนที่สนิทหรือคนในครอบครัวก้อจะมีการให้ของขวัญซึ่งกันและกัน....หรือบางทีหากเราไปเยี่ยมบ้านเค้า..จะเป็นการสุภาพมากหากเราจะให้ของขวัญกับเจ้าของบ้าน เช่น ดอกไม้ chocolate หรือไวน์
แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันทุกเชื้อชาติเลย โดยเฉพาะชาวเอเชีย เช่นคนจีน อินเดีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม รวมทั้งไทยเราด้วย ฝรั่งน้อยมาก..ก้อคือการอยากให้ลูกเรียนเก่ง...มากๆ และมุ่งเน้นให้ลูกเข้าสู่ประตูมหา'ลัย..แต่พวกฝรั่ง ถ้าจบ high school สำหรับเค้าคือเป็นผู้ใหญ่แล้ว..จะเรียนอะไร ทำอะไร ก้อคิดเอง ทำเอง หาเงินเรียนเอง...อันนี้คือความเหมือนระหว่างเอเชียกับเอเชีย แต่เป็นความแตกต่างระหว่างเอเชียกับตะวันตก
หรือแม้กระทั่งพวกเกาหลีก้อเช่นกัน เค้าไม่ได้เรียนคุมองนะ แต่จากการบอกเล่าของเพื่อนชาวเกาหลีของยีน ที่เกาหลีเนี่ย จะเรียนหนักมากๆ เรียนกันถึงดึกดื่นเที่ยงคืนเลย...นอกจากนี้ พวกเด็กผู้หญิงเกาหลี พอปิดเทอมแล้วเปิดเทอมมา ส่วนใหญ่หน้าตาจะเปลี่ยนไป เช่นปิดเทอมแรกกลับมา จมูกอาจจะโด่งขึ้น ปิดเทอมครั้งที่สองกลับมา ตาอาจโตและหวานขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องปกติของสาวเกาหลี คือเค้าจะเรียนให้ได้คะแนนดีๆ เพื่อขอรางวัลจากพ่อแม่เป็นการทำศัลยกรรมให้ตัวเองสวยขึ้น....แต่พวกผู้ชายจะไม่ค่อยทำ จะเป็นที่พวกผู้หญิงมากกว่า...นี่ก้อเป้นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้ลูกขยันเรียนเพื่อเข้ามหา'ลัยให้ได้ ในมุมมองของพ่อแม่เกาหลี..เลยกลายเป็นค่านิยมในหมู่วัยรุ่นกาหลี...ปัจจุบัน
สำหรับยุ่น..เราก้อเป็นคนไทยในแคนาดา ก้อเรียกว่าชนกลุ่มน้อยนะ..ชนกลุ่มใหญ่ส่วนมากก้อคือชาวจีน..กับชาวอินเดีย..คนจีนเนี่ยก้อเป็นอะไรที่ยุ่นไม่ชอบจริงๆเลย..อย่างการรอคิวขึ้นรถเมล์..แบบคนอื่นเค้ายืนรอกันเรียบร้อย..พี่แกบางทีมาก้อมาตัดหน้าเฉยเลย..ยุ่นก้อเคยโดนนะ แต่เค้าเป็นคนแก่นะ..ก้อเลยไม่อยากว่าเค้า แต่พวกฝรั่งนะ จะด่าเลย..คือฝรั่งก้อมีมากนะที่ไม่ชอบคนจีน..
นอกจากนี้ พวกคนจีนเค้าเข้ามาหมู่มาก..ก้อเป็นธรรมดาที่มีชุมชนของเค้าช่วยเหลือกัน..และหาช่องทางหรือช่องว่างของกฏหมายในการโกงเงินรัฐบาล..เช่น..มีครอบครัวจีนมากมายที่เข้ามาคือเค้าอยู่ด้วยกัน แต่ทำเรื่องเอกสารเป็นแบบหย่าร้างกัน เพื่อรัฐบาลจะได้ช่วยเหลือทางการเงินของ Single Mum ซึ่งอันนี้ก้อจะได้เงินช่วยเหลือค่อนข้างมาก...แต่อันนี้ก้อคือการโกงเค้า ซึ่ง Iku เล่าให้ฟังและเค้าบอก เค้าไม่ชอบวิธีการแบบนี้..
หรืออย่างได้คุยกับพี่อ้อม คนไทยที่อยู่ที่นี่ เค้าก้อบอก..พวกคนจีนนะที่ไปเรียนด้วยกัน เค้าจับกลุ่มช่วยเหลือกัน และกันไม่ให้ชาติอื่นได้งานเลย เค้าบอกแต่พวกตัวเอง คือรักพวกพ้องตัวเอง.. คือเค้าไม่ช่วยเราเลย..เค้าแบ่งแยก..พวกเราคนไทยที่นี่ก้อทั้งน้อย อีกอย่างพวกเราก้อมักต่างคนต่างอยู่..
ยุ่นก้อเลยขอยกคำของหลวงพี่ธวัชชัย ที่วัดพุทธปัญญานันทาราม ที่พี่ต้อยเพิ่งพาครอบครัวเราไปวัดเมื่อบ่ายนั้น... บอกพี่อ้อมว่า เห็นด้วยค่ะ และ...หลวงพี่ก้อบอกว่า "คนไทยเรารวมกันเราแย่ แต่ที่แน่ๆแยกกันเรารอด" ก้อเลยเรียกเสียงฮาในวงอาหารของพวกเราหกคนไทยที่นั่งทานข้าวที่บ้านพี่ต้อย...และทุกคนก้อยอมรับความจริงในข้อนี้....
จริงๆไม่ใช่แค่จีนนะที่เค้ารักกัน ฟิลิปปินส์เนี่ยเค้าก้อรักกันมาก..อย่างฮ่งเนี่ยสนใจอยากลองทำงานเภสัชที่ทำงานในห้อง lab ซึ่งเพื่อนร่วมงานฟิลิปปินส์สองคนเค้าทำกัน พอสอบถามรายละเอียด เค้าบอกเค้าไม่รับ เค้ารับแต่คนฟิลิปปินส์...เพราะเพื่อนคนนึงที่ทำเค้าจะลาคลอดในเดือนสองเดือนนี้ ฮ่งก้อลองถามดู เผื่อมีอะไรที่เราพอจะทำเพิ่มได้...เค้ากันเลย..รักษาตำแหน่งไว้สำหรับคนในประเทศเค้าเท่านั้น....หรืออย่างพม่าที่มาที่นี่เนี่ย เวลาใครมาคนนึง เค้าก้อแห่กันไปรับที่สนามบินเลยนะ แล้วก้อช่วยเหลือกัน...
แต่สำหรับยุ่นกับฮ่งที่เรามาแวนคูเวอร์...สำหรับครอบครัวเรา..เราก้อโชคดีนะที่ได้รับการช่วยเหลือจากพี่ประเวศกับพี่ต้อย..ซึ่งเราสองคนก้อคิดว่าหากมีคนไทยที่เข้ามาอยู่แวนคูเวอร์ใหม่...และอยากได้คำแนะนำ..ปรึกษา เราสองคนก้อยินดีช่วยเหลือในสิ่งที่เรารู้นะ..เพราะเรารู้ว่าช่วงเวลานั้น มันกดดัน..เศร้า..และทุกข์ทรมานอย่างไร..และที่ผ่านๆมา..ยุ่นเองก้อได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนคนจีนที่รู้จักที่นี่เช่นกัน เค้าก้อแนะนำสิ่งดีๆกับเรา...อีกทั้งเพิ่งรู้จักไม่นาน เค้าก้อยังเลี้ยงข้าวเราด้วย..เพราะฉะนั้นครอบครัวเราจึงคิดว่า ไม่ว่าจะเป็นใครที่เรารู้จัก และเป็นเพื่อนกับเรา ชาติอะไรก้อแล้วแต่...ถ้ามีโอกาสที่ช่วยกันได้ เราก้อยินดี..เพราะยุ่นรู้สึกว่า..มันเป็นอะไรที่ดีนะเวลาเห็นคนอื่นมีความสุข..และเราก้อจะได้มีเพื่อนมากขึ้นมากขึ้นในประเทศนี้...
และนี่ก้อคงเป็นความแตกต่างทางวัฒนธรรมและลักษณะเด่นของแต่ละเชื้อชาติ..ซึ่งคงเปลี่ยนแปลงได้ยาก..แต่เราก้อสามารถทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างค่อยๆดีขึ้นได้...
No comments:
Post a Comment