Friday, June 18, 2010

ทำดีได้ดี

คิดๆมาคิดๆไปเนี่ย ตอนนี้ยุ่นก้อทำงานกับมิสติงเป็นเวลาหนึ่งปีกับใกล้ๆห้าเดือนแล้ว...ในช่วงแรกที่ทำก้อมีความสุขดี..แล้วก้อมีช่วงหนึ่ง ประมาณปลายปีที่แล้ว..คงเป็นช่วงการปรับตัว ก้อมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง...หลังจากนั้น..ทุกอย่างก้อกลับคืนสู่สภาวะปกติ..

มิสติงเนี่ย..ลักษณะนิสัยจะเป็นคนพูดตรง...พูดจบแล้วจบเลย..ไม่มีการมาผูกใจเจ็บ..ซึ่งอันนี้...เป็นอะไรที่ยุ่นชอบนะ..และในส่วนตัวยุ่น งานก้อคืองาน ยุ่นก้อทำเต็มที่เหมือนเดิม..สิ่งเหล่านี้..ก้ออาจทำให้มิสติงเค้าค่อนข้างถูกใจ...และก้อทำให้หลายสิ่งหลายอย่างดีขึ้น...ยุ่นรู้สึกนะว่า..ช่วงหลังแกดีกับยุ่นมาก...ไว้ใจเรา แล้วก้อจะไม่ให้ทำงานตรวจงานด้วยซ้ำ เพียงแต่ ถ้ายุ่นว่างยุ่นก้อชอบช่วยตรวจงาน..ซึ่งมิสก้อจะบอกว่าไม่ต้องทำ...ไม่ใช่หน้าที่ยุ่น..

และจากการที่มิสติงค่อนข้างให้เกียรติยุ่น ประกอบกับครุผู้ช่วยที่นี่ก้อนิสัยน่ารัก..จึงทำให้ยุ่นทำงานที่ศูนย์นี้ไม่มีปัญหา..ที่นี่..อาจเพราะไม่มีละครไทยแบบอิจฉาริษยาให้ดูมากเหมือนบ้านเรา เลยทำให้คนเค้าไม่ค่อยอิจฉารึปล่าวไม่รู้...5555+ ก้อเรียกว่าเป็นบรรยากาศการทำงานที่ดีมากๆทีเีดียว...

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา..มีแม่ของเด็กนักเรียนคนนึงชื่อ Daniel มารับการบ้านให้ลูก..มิสติงก้อต่อว่าเค้าว่าทำไมจะย้ายศูนย์...นี่ถ้ารู้ว่าคุณจะเรียนสองเดือนแล้วออกเนี่ย ฉันจะไม่รับเลยนะ..ทำให้คะแนนคุมองฉันแย่เลย..

แบบ นี่คือ style มิสติงเค้าจะเป็นคนพูดตรงๆแบบนี้เสมอ..หรือเป็นวัฒนธรรมของคนที่นี่ด้วยส่วนนึงรึปล่าวไม่รู้...แต่แบบอยู่ไทย ยุ่นก้อไม่กล้าพูดนะ..แต่ในใจนะ..ใช่เลย...เพราะคะแนนคุมอง...มันค้ำคออยู่ช่วงแรก..แต่ช่วงหลัง..ช่างหัวมัน..รู้สึกสบายใจขึ้น..

แม่เด็กก้อบอกว่า จริงๆเค้าไม่ได้อยากย้ายนะ..คือเค้าตั้งใจมาเรียนศูนย์มิสติงเพราะเพื่อนคนนึงแนะนำมา..แต่ที่เรียนสองเดือนต้องย้ายศูนย์ เพราะสามีเค้าย้ายที่ทำงาน ไกลขึ้นและต้องขับรถไปทำงาน..ซึ่งที่บ้านมีรถคันเดียว...เดิมทีเค้าขับรถพาลูกมาเรียน แต่ช่วงหลังเค้าต้องนั่งรถเมล์มา มันก้อหลายต่ออยู่ ลูกก้อเหนื่อย แม่ก้อล้า...เลยเห็นใกล้บ้านมีศูนย์นึงเลยลองไปดู..ท่าทางก้อน่าจะใช้ได้..เดินทางก้อสะดวก...จริงๆก้อไม่อยากย้าย เพราะพอบอกลูกชาย..Daniel ก้อบอกไม่อยากย้ายเพราะเค้าชอบสุวรรณีมาก...

อ้าว...แม่...ไหง..หักมุมมาที่ยุ่นแบบไม่บอกกล่าวเกริ่นนำเลย..เล่นเอาสุวรรณีเนี่ย..งง แล้วก้อพูดขอบคุณแทบไม่ทัน..

มิสติงก้อพูดว่า เค้าไม่ชอบมิสติงเหรอ..เค้าทำไมชอบสุวรรณีหละ???

แม่ก้อบอก..เค้าบอกสุวรรณีใจดี เค้าชอบ...( 5555+ Daniel เธอช่างไม่รู้อะไร..ยังไม่รู้จักครูยุ่นตัวจริง...จริงๆนะโหดมากๆๆๆ ที่เห็นเป็นแค่ภาพลวงตา 5555+)

มิสติงก้อบอกเค้าไม่ชอบฉันเพราะฉันดุ ฉันเข้มมากใช่มั้ย...แม่เค้าก้อยิ้มๆไม่ได้พูดอะไร แล้วก้อลากลับ...

มิสติงแกก้อไม่ได้พูดอะไร...ก้อทำงานกันต่อไป..

เสร็จ..วันนั้นอีก...ตอนใกล้จะปิดศูนย์แล้ว...ยุ่นก้อว่างๆ ก้อจะเดินดูเด็ก..คือมิสติงเค้าไม่ให้เดิน แต่แบบติดนิสัย ชอบดูว่าเค้ามีปัญหาอะไรกันมั้ย...ทำงานเป็นไง...ก้อลืมตัวตลอด...

เสร็จก้อมีแม่คนนึงเดินมาจับแขนยุ่น แล้วก้อส่ง sound track version Mandarin มาเลย...โชคดีพูดได้ ฟังรู้เรื่อง พอตอบสนองได้...แม่ก้อบอกขอบคุณสุวรรณีมากๆนะที่ช่วยดูแลลูกชาย...ยุ่นก้องง...คนไหนค่ะ...เค้าก้อชี้ไป เราก้อ อ๋อ..Brian เค้าอยู่เกรด 8 แล้วแม่ก้อบอกว่าลูกชายเป็นเด็กที่เรียนรู้ช้านะ...เค้าไม่กล้าถามมิสติง เค้าบอกตอนนี้นะมันยากมาก เค้าอยากเลิกเรียน ยังไงช่วยดูแลเค้าด้วยนะ..ฉันอยากให้เค้าเรียนต่อ...ฉันรู้ว่ามันดี แต่มิสติงดุมาก..ลูกชายกลัว ไม่กล้าเข้าหา...

ยุ่นก้อเลยคุยกับเด็กว่าตอนนี้อยู่เกรด 8 ก้อมอสองเนอะ..แต่ทำคุมองระดับ I ถือว่าเก่งมาก..ที่นี่ก้อประมาณ เกรด 11-12 ไม่ต้องกังวลนะ..คุณทำได้ดี...ยุ่นก้อบอกแม่เค้าว่าเด็กไม่ได้เรียนรู้ช้า.. Brian เค้าโอเคเลย..เพราะพอยุ่น guide เค้าโดยให้ดูตัวอย่าง พอเค้า get เค้าทำได้ ทำแบบค่อนข้างดีด้วย...ตอนนี้เค้าอยู่ I 61-71 ซึ่งเป็นชุดที่ค่อนข้างยากของการแยกตัวประกอบ...เพราะฉะนั้น...เด็กส่วนมากก้อจะติด..ไม่ใช่ Brian คนเดียว..ไม่ต้องกังวล...เค้าเรียนรู้ได้...หลังทำไปสักพัก..เค้าจะโอเค...แล้วยุ่นก้อบอก Brian ว่า มีอะไรไม่เข้าใจก้อมาถามนะ..ยินดี..เสมอ...

แบบ...ก้อรู้สึกดีใจนะที่เราสามารถช่วยเหลือเด็กที่เค้ามีปัญหาได้..คือเพียงแต่วิธีการยุ่นกับมิสติงจะแตกต่างกัน...ยุ่นจะใช้ worksheet แล้วก้อให้เด็กดูตัวอย่าง...บางทีก้อบอกเด็ก copyในกระดาษสักสามสี่รอบ...อยู่ดี เด็กก้อบอกเข้าใจแล้ว...แต่มิสติงเวลาเด็กถามเค้า..เค้าจะชอบพูดเสียงดัง บางทีก้อถอนหายใจแบบแสดงความรำคาญ...ไม่รู้นะ..ว่าเด็กรุ้สึกยังไง..แต่ยุ่นรู้สึกแบบนั้น...จึงทำให้เด็กส่วนใหญ่ไม่กล้าถามมิสติง...และเมื่อมีปัญหามากๆ ก้อลาออก...

อีกอย่างที่ยุ่นไม่เหมือนเค้าคือ หลังจาก guide แล้วยุ่นต้องกลับไปดูผลงานการ guide ว่าเด็กเข้าใจมั้ย ทำได้มั้ย...ซึ่งก้ออาจคล้ายเราประคบประหงมเด็ก..แต่มิสติงจะไม่สนใจหลังจากนั้น...ว่าเด็กทำได้มั้ย คือถ้าเด็กไม่กลับมาแปลว่าเด็กโอเค..

อาจด้วยวัฒนธรรมของตะวันตกเน้นการช่วยเหลือตัวเองมาก...เอเชียเราอาจช่วยมากกว่า..และด้วยอายุของมิสติงก้อ 65 ยุ่นก้อ 46 ต่างกันเกือบยี่สิบปี...วัยที่ต่าง ก้ออาจมีมุมมองที่แตกต่าง...ยุ่นว่ามิสติงเค้าแบบเหมือนครูรุ่นเก่า...ที่จะชอบดุเด็ก...แต่ยุ่นอาจไม่ค่อยชอบวิธีดุแบบนั้น...คือดุเหมือนกัน แต่จะไม่ดุถ้าเค้าทำเลขไม่ได้..แต่ถ้าเรื่องมารยาทในสังคม นิสัย..พฤติกรรมเนี่ย...ที่ไม่โอเค เช่นขี้เกียจ ขี้โกงอย่างนี้ไม่ได้ ยุ่น serious... อันนี้ต้องดุ ต้องสอน...

ก้อคงต้องทำหน้าที่ของยุ่นไปเท่าที่เราจะทำได้...ก้อหวังว่าเราก้อคงสามารถช่วยพวกเด็กๆได้ในระดับหนึ่ง...แต่สิ่งที่ยุ่นรู้สึกได้ในขณะนี้ก้อคือความสบายใจ ความสุขใจทุกครั้งที่เห็นเด็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้น...สำหรับยุ่น..ยุ่นว่านี่ก้อน่าจะเรียกว่า "ทำดีได้ดี" นะ...

2 comments:

  1. คนส่วนใหญ่ที่บอกว่าทำดีไม่ได้ดี ก็เพราะเขาต้องการผลตอบแทนของการทำดีในรูปแบบอื่นไง แบบได้เลื่อนตำแหน่ง ได้ชื่อเสียงเงินทองอะไรทำนองนั้น เมื่อก่อนตอนประสบการณ์ชีวิตน้อยๆ เก๋ก็คิดแบบนั้นนะ

    แต่เดี๋ยวนี้ไม่แล้ว ตอนนี้เวลาทำอะไรดีๆ ก็จะรู้สึกดีตอนนั้นเลย ก็มีความสุขตั้งแต่ตอนที่ได้ทำ มันก็ได้ดีทันทีเลยนะ เหมือนเวลาพี่ยุ่นแนะนำเด็ก แล้วมันทำหน้าว่า get แล้ว ให้เห็นนี่ เราก็ happy ตอนนั้นเลย บางทีกลับมาบ้านนึกถึงอีก ก็ happy ได้อีก จริงมั้ย ^-^

    ReplyDelete
  2. ใช่ค่ะ อารมณ์นั้นเลยค่ะ

    ReplyDelete