อึม..มานั่งคิดถึงตอนนั้นที่เพิ่งมาที่แวนคูเวอร์ไม่นาน ก้อไปสมัครทำงานกับมิสติง และได้งานประมาณกุมภาพันธ์ 09 รู้สึกเพิ่งมาประมาณสี่เดือนกว่าเอง..ภาษาอังกฤษตอนนั้น เรียกว่าเข้าขั้นใช้การยังไม่ได้ หูเนี่ย..ยังไม่กระดิกเลย คือฟังเค้าพูดเนี่ย รู้เรื่องแค่ 40-50% เอง ส่วนเรื่องการพูด...อึม..น้อยถึงน้อยมาก..
บังเอิญตอนนั้นน่าจะมีนารึไงเนี่ย ไม่แน่ใจ แต่ประมาณช่วงนั้น..ทางบริษัทคุมองก้อมีจัดอบรมผู้ช่วยเด็กเล็ก..การดูแลเด็กเล็ก ทั้งวิชาเลขและอังกฤษ...มิสติงก้อถามยุ่นว่าอยากไปมั้ย...ยุ่นก้ออยากอยู่แล้ว..เพราะอยากรุ้ว่าเค้าสอนอย่างไร..และมิสก้อให้ Dorris กับเด็กผู้ช่วยรู้สึกจะอยู่ high school นะ..เพิ่งเข้ามาไม่นานไปด้วย ตกลงไปกันสี่คน รวมมิสติงด้วย..
บริษัทคุมองที่โน้นกับบ้านเรา ไม่เหมือนกันเลยนะ..สถานที่ของเรากว้างขวางใหญ่โต พนักงานคุมองเพียบ...เดี๋ยวนี้คงมีเป็นร้อย ที่จอดรถคุมองก้อ provide ให้...แต่ที่แวนคูเวอร์...สำนักงานเค้าก้อเล็กๆนะ..แบบห้องไม่ใหญ่ อึม...ยุ่นว่าน่าจะหนึ่งในสี่ของสำนักงานคุมองไทยแลนด์ตอนที่อยู่ SCB นะ...พนักงานทั้งหมดรู้สึก 8-9 คน แต่วันนั้นที่มา train สองคน ก้อเห็นแค่สองคน ที่จอดรถมีให้ศูนย์ละหนึ่งที่ พนักงานเคุมองต้องลงไปรอหน้าตึก เพื่อให้บัตรจอดรถ ไม่มีคือจอดไม่ได้ เสียสตางค์ แพงมั่กๆ... และเค้าก้อต้องเป็นคนรับพวกเราขึ้นมาที่บริษัทด้วย แบบคนละเรื่องกับบ้านเราเลย..
ยุ่นคิดว่าคงเนื่องจากค่าใช้จ่ายต่างๆที่ค่อนข้างสูงของที่นี่ ทุกอย่างจึงมีการคำนวณอย่างรอบคอบ..เราก้อได้เห็นอีกภาพหนึ่งนะ ซึ่งก้อยิ่งทำให้เรารู้ว่าเมืองไทยเนี่ย น่าอยู่กว่ากันมากเลย..
มาถึงตอน train หละ..ก่อนอื่น..เค้าก้อแจกข้อสอบเลย..ยุ่นก้อคิด สอบอะไรวะเนี่ย..เพิ่งมาทำงานเอง..ขอโทษ ข้อสอบไม่ได้ให้แสดงความคิดเห็นนะ..จริงจังเลยแหละ...ข้อสอบมีทั้งวิชาเลขและอังกฤษรวมกัน เป็นแนวถามว่าแบบฝึกหัดชุดนั้นชุดนี้เป็นเนื้อหาอะไร และการดูแลเด็กเล็ก..และแนะนำผู้ปกครองอย่างไร
ข้อสอบสองหน้าเต็ม..ภาษาอังกฤษล้วนๆ...5555 และเค้าจับเวลาด้วย..คิดดู จะอ่านทันได้ไง อ่านเสร็จก้อต้องคิดกลับเป็นไทย ต้องคิดอีกว่าข้อไหนถูก..และยิ่งเจอคำถามของคุมองอังกฤษ reading ที่แคนาดา ก้อคนละ version กับบ้านเรา..ก้อไม่ต้องพูดถึงผลเลย..ทำไม่ทัน หน้าแรกยังทำไม่ถึงครึ่งเลย เค้าก้อเก็บกระดาษคำตอบแล้ว...
ก้อเรียกว่า...ทำให้เรางง และรู้ว่าอังกฤษเรายังใช้การไม่ได้จริงๆ...คิดในใจ งานนี้ต้องปรับหนักเลย..
หลังจากนั้นเค้าก้อเริ่มสอนเกี่ยวกับแบบฝึกหัดคุมองโดยเริ่มที่เลขก่อน..ซึ่งยุ่นก้อค่อนข้างโอเค เพราะเหมือนบ้านเราทุกประการ..จากนั้นก้อตามด้วย reading อันนี้ จะงงมาก..เพราะเพิ่งมาทำเดือนกว่า และไม่เคยเห็นแบบฝึกหัดเค้าเลย..คิดว่าน่าจะคล้ายกัน แต่ก้อไม่เหมือนกันนะ...ช่วงเรียนคุมองอังกฤษก้อพอได้ไอเดีย แต่นึกแบบฝึกหัดไม่ออกไง..ก้อจำแต่หลักๆไว้ก่อน
เสร็จ...สอนเสร็จ เค้ามีเล่นเกมส์...เกมส์ก้อเป็นคำถามเกี่ยวกับบทเรียนทั้งน้าน...เค้าจะบอกว่าจะเป็นการวนตอบ เช่นเริ่มจากกลุ่มหนึ่ง สอง สามไป...พอคำถามขึ้น ก้อเป็นสิทธิ์ของกลุ่มนั้นก่อน ถ้าไม่ได้ กลุ่มอื่นมีสิทธิ์ตอบ ดูว่าใครยกมือก่อน...แล้วก้อเก็บสะสมคะแนน..
กลุ่มเราก้อยุ่น เพิ่งมาเดือนกว่า แล้วก้อDorris เป็นคนฮ่องกงมาอยุ่ที่นี่เกือบยี่สิบปี แต่ภาษาอังกฤษ เค้าไม่ดีไง เค้าใช้กวางตุ้งส่วนใหญ่..อีกคนก้อเด็กนักเรียนเพิ่งมาทำคุมอง..สามคนอยู่ทีมเดียวกัน
พอคำถามขึ้น...เค้าก้ออ่านให้ฟังนะ..แต่เราก้อต้องอ่านเองจริงมั้ย เพราะเราฟังเค้าไม่ทันหรอก..อ่านเอง กว่าจะแปล..ช้ามาก..เวลาคำถามมาอยู่ที่กลุ่มเรา..รู้สึกกดดันมากเลย...เราตอบช้าสุด..แล้วดันตอบผิดอีก..55555
เสร็จ..เวลาเป็นของกลุ่มอื่น..พอเค้าอ่านคำถามจบ..มันตอบเลย..อะไรวะเนี่ย..ฉันยังแปลได้แค่นิดเดียวเอง...พวกคุณก้อเล่นตอบแล้ว...เชื่อมั้ย...อ่านยังไม่ทันเลย อย่าพูดถึงคิด...แล้วก้อทีมเราสามคน คนที่ตอบก้อมียุ่นคนเดียว...อีกสองคนเค้าก้อบอกเค้าไม่รู้ เด็ก high school ภาษาอังกฤษเค้าดีกว่าเรา แต่เค้าไม่รู้เรื่องไง...เค้าตรวจงานอย่างเดียว...ผลปรากฎทีมเราแพ้ย่อยยับ...ก้ออายเหมือนกันนะ..แต่ก้อต้องยอมรับ...
มิสติงก้อดูหงุดหงิดนะ..ว่าทำไมพวกเราตอบไม่ได้ ไม่ทันเค้า ก้อดูทีมเรา..แต่ละคน รู้งี้ส่ง Jessica Erica Lisa มา รับรอง ชนะแน่ๆ...
พอเล่นเกมส์เสร็จเค้าก้อแจกรางวัล แล้วก้อเอาข้อสอบชุดแรกมาให้ทำอีก..ยุ่นก้อยังคงทำไม่ได้อีกตามเคย..เพราะก้อด้วยเหตุผลเดิม..ทำไม่ทัน...และงานนี้เค้าไม่ได้ให้สอบเปล่าๆ เค้ามีว่าถ้าสอบผ่าน 80% จะให้ใบผ่านการอบรมคุมองเด็กเล็ก...ยุ่นก้อไม่ได้ตามเคย..แต่ก้อสามารถสอบซ่อมได้ ทาง online นะ...แต่ยุ่นก้อเปิดเข้าไม่ได้ ไม่รู้ทำไม..ก้อเลยไม่ได้สอบซะที แต่ก้อดีเหมือนกัน เพราะไม่แน่ใจว่าจะสอบผ่านมั้ยเนี่ย ?!?
จากวันนั้น ทำให้ยุ่นรู้ว่าเราต้องทำอะไรเพิ่มเติมอีกมากมาย..นี่คิดเล่นๆนะ..แต่มันก้อคือความจริง ขนาดเราจบปริญญาตรีเภสัชจุฬามานะเนี่ย...เรายังใช้การได้แค่นี้ แปลว่าภาษาอังกฤษบ้านเราเนี่ย...จะสู้กับคนอื่นในโลกใบนี้เนี่ย ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย เราต้องทำการบ้านกันอีกเยอะเลย...แต่..ก้อไม่แน่นะ..เป็นคนไทยคนอื่นอาจดีกว่ายุ่น...คือภาษาอังกฤษยุ่นก้อไม่ถือว่าดีนะ..ก้อให้คะแนนตัวเองก้อปานกลางเท่านั้น...หมายถึงว่ามาตรฐานที่ไทยนะ..แต่ถ้าที่นี่ แคนาดา อยู่ในขั้นต้องปรับปรุงอย่างแรง..
กลับจากการอบรมครั้งนั้น..ก้อมาคิดว่าทำไงดี ก้อคงต้องเริ่มจากการฟังมากๆก่อน..ก้อเลยเริ่มดูรายการทีวี และก้อเริ่มดูเกมส์โชว์ที่มีคำถาม...เรียกว่าดูจนช่วงหลัง...ฟังเค้าจบปั๊บ พยายามตอบให้ได้ทันที แบบเหมือนฟังแล้วเข้าใจเลยนะ..คือถ้าเป็นภาษาไทย มัน auto ใช่มะ...แต่อังกฤษ มันต้องมีเวลาคิด..ก้อพยายามฟังและให้เข้าใจแบบ auto ให้ได้...ซึ่งทุกวันนี้ก้อดีขึ้นนะ..แต่ก้อคงไม่เร็วเหมือนคนที่นี่อย่างแน่นอน...
และนี่ก้อเป็นเรื่องขำๆ..ที่เวลาเจอตอนนั้น มันขำไม่ออกนะ...ได้แต่..งง..อึ้ง...แล้วก้ออึดอัดมากเลย...
พี่ยุ่น ถ้าพี่ยุ่นเจอพวก DVD การ์ตูนเด็กๆ แบบที่มี Subtitle เป็นภาษาอังกฤษ พี่ยุ่นซื้อให้เก๋หนอยสิ จะเอาให้เด็กๆ ดู สมัยก่อนพี่เธียรไปเรียนไต้หวัน เค้าบอกว่าทีวีเขาจะพูดภาษาจีน แล้วก็จะมีตัวหนังสือขึ้นให้ด้วย เหมือนคาราโอเกะ มันช่วยให้คนเรียนภาษาได้เร็วขึ้น
ReplyDeleteคนส่วนใหญ่จะคิดว่ามันไม่มีประโยชน์ เพราะก็ฟังรู้เรื่องแล้ว จะอ่านไปด้วยทำไม (ส่วนใหญ่จะใช้เวลาแปลเป็นอีกภาษาหนึ่งมากกว่า) แต่จริงๆ แล้วเก๋ว่ามันดีมากๆ เลย ความจริงทีวีไทยก็น่าจะทำแบบนั้นนะ มันจะทำให้เด็กๆ เราอ่านหนังสือได้ดีขึ้นเยอะเลย
ได้ค่ะ..แล้วพี่จะดูให้ค่ะ วันก่อนไปห้องสมุด เจอหนังสือชุดนึงเรียก " Focus on Pronunciation " มีสามตอน เลยลองยืมตอนหนึ่งมาฟังก่อน ดีมากๆเลย เค้าสอนจากคำๆเดียวก่อน และก้อเป็นคำที่มีเสียงคล้ายๆกัน ที่เราจะฟังผิด ออกเสียงผิด...อึม..แล้วก้อค่อยๆให้พูดเป็นประโยค พี่ชอบมากเลย ก้อเลยว่าจะฝึกมันทั้งสามเล่มเลย..ก้อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์...ดีเหมือนกัน
ReplyDeleteถ้าเจออะไรดีๆจะมาเล่าให้ฟังนะคะ่