Friday, January 14, 2011

อาหารการกินใน Vancouver ตอนสอง

มีเพื่อนคนไทยหลายคนที่มาที่นี่...และก้อต้องทำงานใช่มะ...คราวนี้ไอ้การทำกับข้าวเนี่ย..เค้าไม่มีเวลาที่จะมานั่งเตรียมนั่งทำ...คือต้องหางานหาเงินเป็นหลัก.. ต้องsurvive ก่อน... เพราะค่าครองชีพที่นี่สูงกว่าบ้านเรามั่กๆๆๆๆๆๆ

แต่เนื่องจากอาหารก้อต้องทำกินเอง เพราะถ้าซื้อกิน..ไอ้เงินที่หามาคงไม่พอค่าซื้อกินแน่นอน...พี่คนนึงเค้าเล่าให้ฟังจากประสบการณ์ตรงของเค้าว่า :

พี่เค้าทำงานห้าวันจันทร์ถึงศุกร์ ออกจากบ้านแต่เช้า กลับมาก้อเย็นมากและเหนื่อย..เค้าก้อแบบเสาร์ไปซื้อกับข้าวใช่มะ..แบบของทั้งอาทิตย์เลย...เสร็จ..

วันอาทิตย์ทั้งวันเลยนะ..ทำกับข้าวเตรียมของทั้งอาทิตย์หน้าที่จะถึง...แบบจันทร์ถึงศุกร์วันละสามมื้อก้อสิบห้ามื้อ...ยุ่นก้องง...ถามว่า ยังไง ไม่เข้าใจ

พี่เค้าบอก พี่ก้อแบบทำมันทั้งวันเลย...แบบก้อคิดเลยว่าเราจะกินอะไรอาทิตย์หน้า..แล้วก้ออาจทำสักสองสามอย่าง...หรือถ้ามีอารมณ์ก้ออาจสี่ห้าอย่าง...แล้วก้อ pack ใส่กล่อง tupperware ไว้เลยกล่องละหนึ่งมื้อ ก้อสิบห้ากล่อง..เข้าช่อง freezeเลย....เช้าก้อหยิบออกมา wave กินเลย..แล้วก้อ wave เผื่อกลางวันด้วย...เอาเป็น lunchbox ไปที่ทำงาน เย็นกลับมาก้อเหนื่อยแล้ว ไม่อยากทำอะไรแล้ว...( เพราะทำงานที่นี่เค้าใช้งานคุ้มค่าแรงมากๆ) หยิบอีกกล่อง.. wave กินมื้อเย็นอีกมื้อ....จากนั้นก้อสลบแล้ว...

ก้อกินสลับมาสลับไป...อย่างนี้ทั้งอาทิตย์...

ยุ่นก้อถามพี่เค้าว่าแล้วไม่เหนื่อยเหรอ...แบบเสาร์อาทิตย์ยังต้องมานั่งทำกับข้าว..พี่เค้าบอกเหนื่อยสิ..ไม่ได้นั่งทำนะ ยืนทำด้วย...แต่ทำไงได้ มันไม่มีเวลา...อันนี้ก้อเป็นเรื่องที่ยุ่นฟังแล้ว...งง และอึ้งไปเลย...

แต่..ก้อเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ไม่เลวอีกวิธีหนึ่งของพี่เค้า...

นึกถึงที่พี่ประเวศเคยบอกยุ่นว่าตอนเช้าถ้าคุณยุ่นขี้เกียจตื่นขึ้นมาทำกับข้าวให้สองหนุ่มกิน...ให้ยุ่นทำหมูซีอิ้ว...ผัดให้เรียบร้อยเลยนะตอนเย็น..แล้วก้อใส่ tupperware เก็บในตู้เย็น พอเช้าคุณชาญชัยก้อเอา tupperware นั้นนะมา wave และกินเป็นอาหารเช้าได้เลย...เชื่อมะ..ยุ่นยังไม่เคยทำเลยอ่ะ....คือเห็นด้วยกับพี่เค้านะ...แต่ตอนทำกับข้าวตอนเย็นยุ่นก้อคิดถึงแต่มื้อนั้น ไม่ได้นึกถึงมื้อต่อไป...และพอนึกออก เราก้อทำกับข้าวเย็นเสร็จแล้ว ให้ทำอีกอย่างก้อไม่อยากแล้ว...อยากนั่งกินข้าวเย็นมากกว่า...

และตั้งแต่เล็กจนโต...ก้อไม่ได้เป็นคนที่ชอบทำกับข้าวมากมาย...แต่ก้อคิดว่าถ้าต้องทำกับข้าวแบบรวบยอดเหมือนพี่เค้าห้าวันเนี่ย...วันอาทิตย์คงเป็นวันที่ระทมทุกข์มากเลย...เพราะกว่าจะเตรียมจะล้างวัตถุดิบต่างๆ ปลอก...หั่น บด ผสม...ทอด ต้ม...อะไรสารพัด...โอย...ตายแน่ ตายแน่ๆเลย...คงทำทั้งวันก้อไม่เสร็จ...และเราก้อไม่ใช่เป็นคนที่มีความสุขสำราญในการทำกับข้าวมากมาย...

นอกจากนี้ ยุ่นเป็นคนไม่ชอบกินอาหารที่ wave แต่จะชอบกินอาหารที่ปรุงสดๆ...ทำง่ายๆเร็วๆไม่ต้องพิธีรีตองมาก...แต่ชอบทำเตรียมสดสดอ่ะ...

และเนื่องจากเราก้อยังโชคดีที่ไม่ต้องไปทำงานแบบพี่เค้าคือออกแต่เช้าและกลับเย็นไง...คือยุ่นออกจากบ้านเที่ยงไปเรียนสองชั่วโมง จันทร์ พุธช่วงบ่ายว่าง สามวันที่เหลือสอนคุมองสามโมงถึงทุ่มครึ่ง...ฉะนั้นเราจึงมีเวลาที่จะทำอาหารที่ปรุงสดๆ ไม่ต้องทำและ freeze แบบพี่เค้า...

นอกจากนี้..ยุ่นจะเป็นคนที่ทำอาหารเร็วมากหรือพูดง่ายๆว่าไม่พิถีพิถัน......อย่างตอนเช้าเนี่ย...ยุ่นจะไม่ทำอะไรที่ทำให้ตัวเราต้องลำบากมาก...ยีนกับฮ่งเค้าจะกินหนักทุกมื้อ...เช้าบ้านเราก้อกินข้าวเป็นจานๆ..เราไม่กินนะขนมปังกับกาแฟ มันไม่อิ่ม..อยู่ไทยเราก้อไม่เคยกินแบบนี้ มานี่เรายิ่งกินไม่ได้ เพราะอากาศเย็น..ขืนกินขนมปังกาแฟมื้อเช้า...เดินออกจากบ้านไม่กี่ก้าว...ก้อละลายหมดแล้ว

ยุ่นก้ออย่างนี้เลย เช้าข้าวไข่เจียว...ข้าวหมูซีอิ้ว..บางทีก้อมีข้าวต้มหมูสับ...(ขนาดทำข้าวต้มตอนเช้านะ สองคนบอกกินข้าวต้มแล้วหิวเร็วทุกทีเลย....)..หรือบางทีก้อข้าว..แล้วก้อไส้กรอกคนละอัน...เราก้อทำกินกันแบบง่ายๆ...ห้านาทีก้อเสร็จแล้ว...

เดี๋ยวนี้ยีนเค้าก้อไม่เอา lunchboxไปโรงเรียนแล้ว.... เพราะเค้าอยากกินที่โรงเรียนกับเพื่อน...ยุ่นก้อตามใจเค้า...เย็นเนี่ยก้อง่ายๆ...ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารจานเดียว...ยิ่งวันไหนยุ่นทำคุมอง บางทียุ่นจะทำไว้ก่อนตอนเช้าก่อนออกจากบ้าน ...เช่นทำพะโล้ จับช่าย..สตูว์ไก่ ซีโครงหมูกระเทียมพริกไทยอบ...หรือก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นที่ยีนบอกละลายในปากอ่ะ....มันก้อง่ายสำหรับพวกเค้าที่จะอุ่นและทำกินกันเองได้...ช่วงที่ยุ่นยังไม่กลับจากทำงาน

หรือบางทีก้อเตรียมเครื่องทุกอย่างไว้ให้เรียบร้อยเลย อย่างผัดไท..เราก้อเตรียมกระเทียมหอมแดงสับละเอียด...แกะกุ้งไว้..หัวไชโป้วสับ..กุ้งแห้ง...ถั่วงอก ผัก เส้นก๋วยเตี๋ยวแช่น้ำไว้...พอเรากลับมาใช่มะ..เราก้อโยนทุกอย่างลงในกะทะ.. แล้วปรุงรสเลย...ผัดเป็นจานๆเลย แป๊บเดียวเสร็จ ....คือเราก้อต้อง organize ชีวิตของเราในแบบฉบับครอบครัวเรา...ที่เราสะดวก..สบายและอยู่รอดได้...^^

และที่สำคัญก้อคือฮ่งกับยีนเนี่ยเป็นคนไม่เรื่องมาก....คือทำอะไรให้กิน..เค้าก้อกินกันนะ..หรือพูดง่ายๆก้อคือเลี้ยงง่าย...ไม่บ่นมากด้วย 555555 อันนี้ก้อถือว่ายุ่นค่อนข้างโชคดี...^^

6 comments:

  1. ชีวิตของยุ่นก็ดูเรียบง่าย และสงบดีนะ อย่างนี้เขาเรียกว่าร่ำรวยความสุขน่ะ ดีกว่าคนที่ร่ำรวยเงินทอง แต่ก็ยังต้องทำงานกับความเครียดแล้วก็ไม่มีความสุขนะจ๊ะ อ้อ แล้วยีนตอนนี้เรียนชั้นอะไรแล้ว จะต่อ มหาลัยที่นั่นเลยรึเปล่า เขาอยากจะเรียนอะไรต่อจ๊ะ แล้วที่ยุ่นต้องเรียน bio มันเป็นข้อกำหนดที่ทุกคนต้องจบ grade 12 หรือจ๊ะ

    พี่เหน่ง

    ReplyDelete
  2. แบบว่านึกภาพแล้ว เหนื่อยแทน คนที่อยู่ที่นี่เขาก็จะวาดภาพว่าคนที่ไปอยู่เมืองนอกนี่แบบต้องรวยแล้วก็สบายกว่าอยู่เมืองไทยแน่ๆ ที่พี่ยุ่นเล่ามานี่มันไม่ใช่เลยนะ

    พี่ไม่คบคนรวยๆ เลยเหรอ แบบที่ลงคู่สร้างคู่สมน่ะ เป็นเจ้าของร้านอาหาร มีสามีเป็นเศรษฐี มีรถสปอร์ตขับ มีสกีวิลล่าอะไรแบบนั้นน่ะ 555

    ReplyDelete
  3. พี่เข้าใจนะที่เค้าวาดภาพว่าสบายเพราะ..คนที่มาที่นี่ส่วนใหญ่ก้อแบบมาเรียน พ่อกับแม่ก้อมีสตางค์ส่งมาเรียน...ก้อเรียนและอยู่แบบนักเรียนนะ...

    แต่ของพี่...ก้อจะเหมือนพ่อแม่เราที่มาจากเมืองจีนนะ.. immigrate เข้ามาอยุ่ไทย...ช่วงแรกๆพ่อแม่เราก้อคงลำบากมากๆเลย ทั้งภาษาเอย อาหารการกิน การปรับตัวเข้ากับสิ่งใหม่ๆ..แต่เนื่องจากพวกพ่อแม่เราอดทนมากๆๆๆๆ และพี่ก้อยอมรับนะว่าคนสมัยก่อน...ทั้งเก่งและอดทนสูงกว่าพวกเรา...

    อย่างพี่มา...เรามาแบบเราอยู่ไทยสบายแล้ว..และดูอายุเราก้อจะปาเข้าไปห้าสิบแล้ว...จะมาเริ่มต้นใหม่ในประเทศใหม่...5555 มันไม่ใช่เรื่องกล้วยๆ..เพราะฉะนั้น..พี่ถึงบอกไง คนไทยที่สามารถอยู่รอดในต่างแดนได้ด้วยตัวเค้าเอง..ไม่ธรรมดานะ..

    พี่ยุ่น..รู้ตัวเองดี..และยอมรับว่าเราไม่เก่งพอ..และใจพี่ก้อไม่เด็ดพอด้วย...

    สำหรับพวกคนรวยๆเนี่ย...พี่ก้ออยากได้เจอเหมือนกันนะ..แต่ไม่มีเล็ดลอดมาเลยอ่ะ..ตอนอยู่ไทยก้อไม่เคยได้เจอใครรวยๆเหมือนกัน มาที่นี่คงยิ่งยากนะ...55555 ชีวิตไม่เหมือนนิยายที่เค้าแต่งนะ..อันนั้นแต่งไงก้อได้..แต่ชีวิตจริง...ไม่เห็นเจอเลย..และถึงเจอ..ก้อไม่รู้เค้าจะอยากคบเรามั้ยเนี่ย!!!

    ReplyDelete
  4. ตอนนี้สนุกกับการทำกับข้าวยังจ๊ะ
    เคยอ่านตามบล็อกต่างๆของคนไทยต่างแดนที่สรรหาวัตถุดิบมาปรุงอาหารเหลือเชื่อหลายรายการ...
    อีกหน่อยยุ่นก้อเป็นโปร...แบบนั้นได้เหมือนกันเน้อ

    ReplyDelete
  5. อยู่Vancouverหรือค่ะ ช่วบแอดเมลล์ได้มั้ยค่ะ pear_bubble@hotmail.com พอดีจะไปเรียนภาษาปีหนึ่ง เรยอยากหางานพาสทามทำพลางๆ เรยอยากจะปรึกษาว่าหาได้ที่ไหนบ้างค่ะ

    ReplyDelete
  6. @ Anonymous ที่มาเรียนภาษามาในลักษณะนักเรียน international หรือ PR ค่ะ..มันแตกต่างนะค่ะ..ถ้า inter หางานไม่ได้ค่ะ...มันเป็นกฎหมายอ่ะค่ะ

    ReplyDelete