Monday, January 4, 2010

Canadian Coin..and Bank Note

เหรียญที่ใช้ในแคนาดาจะมี 6 ชนิดคือ

1cent เรียก Penny, 5 cents เรียก Nickel, 10 cents เรียก Dime, 25 cents เรียก Quarter, 1 dollar เรียก Loonie และ 2 dollars เรียก Toonie ที่นิยมใช้ก้อเป็น quarter loonie และ toonie แต่ที่ครอบครัวเราชอบและต้องเก็บมากหน่อยคือ quater และ loonie เพราะใช้ในการหยอดตู้ซักเสื้อ และหยอดรถ cart เวลาซื้อของมากๆ...

ส่วน bank note ก้อมี ใบละ 5 ,10, 20, 50 และ 100 เหรียญ แต่ที่นิยมใช้กันจะเป็น 5,10 และ 20 เหรียญ ถ้าใครเอาใบละ 50 หรือ 100 ออกมาใช้ เค้าจะต้องส่อง ตรวจว่าเป็นของปลอมมั้ย ก้อสมควรนะ เพราะถ้า 50 ก้อ 1500 บาทและ 100 ก้อประมาณ 3000 บาทของบ้านเรา...

ทีแรกยุ่นมาที่นี่ก้อแบบงงมากๆเลย...เราจะใช้ไอ้เหรียญเล็กๆเนี่ยเมื่อไร คือพวก penny nickle dime เนี่ย...แล้วฮ่งก้อแบบมีเหรียญทุกชนิดเลยนะ เก็บในกระป๋องมากๆๆๆๆเลย ต้องบอกว่าทุกชนิดจริงๆ เพราะฮ่งเค้าจะได้ทอนมา แล้วเค้าไม่ได้ใช้ เค้าก้อเก็บ ๆ แล้วก้อเก็บ...อย่างที่ไทยเรา สลึงกับห้าสิบจะน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นเหรียญบาทกับห้าบาท.. ก้อแบบใช้ง่ายมาก..

เวลาที่ไปซื้อของกัน ส่วนใหญ่เราก้อจะใช้บัตรเครดิต และเวลาไปทานข้าวในร้านอาหาร เค้าจะไม่รับเครดิต เค้าจะติดไว้เลยว่า cash only ซึ่งเราก้อมักจ่ายเป็นแบงค์ และก้อได้รับทอนเป็นเหรียญกลับมาอีก...เพราะฉะนั้น ยิ่งคิดก้อยิ่งไม่รู้จะทำอย่างไรกับเหรียญที่มากมายขนาดนั้น

ยุ่นก้อมานั่งแยกเหรียญทุกชนิดใส่ถุงไว้ ทั้ง 6 ชนิด รวมๆกันก้อเป็นมูลค่าสามสี่ร้อยเหรียญ คราวนี้ตอนไปshopping เช่นซื้อผักผลไม้ ในร้านชำนะ ซึ่งที่นี่จะมีร้านประเภทนี้มากมาย ยุ่นก้อเริ่มสังเกตุวิธีการจ่ายเงินของคนที่นี่ คือผู้หญิงนะ ทั้งวัยกลางคนและคนแก่ จะชอบใช้เหรียญจ่าย ผู้ชายไม่ค่อย เค้าจะใช้แบงค์กัน คราวนี้ก้อสังเกตุว่าเค้าจะนับเหรียญเล็กๆจ่ายกันตรงแคชเชียร์เลย เช่นซื้อผักอึม.... $ 4.87 เค้าก้อจะค่อยๆนับเหรียญเล็กๆนะแล้วจ่ายแคชเชียร์ ซึ่งคนที่คอยคิวก้อต้องคอยไป แคชเชียร์ก้อไม่ว่า น่ารักมาก.... เท่านั้นแหละ ยุ่นก้อเกิดไอเดียแล้วว่าเราจะใช้เหรียญเล็กๆที่เก็บพวกนี้อย่างไร..

กลับบ้านก้อเอาเหรียญที่แยกเนี่ย มาแยกใส่ถุงเล็ก และเวลาไปซื้อผัก ผลไม้ร้านของชำ ก้อจะหยิบเหรียญพวกนี้ขึ้นมาใช้ และเราก้อจะจ่ายได้ค่อนข้างเร็วด้วย คนหลังเราก้อไม่ต้องรอเรานานมาก เพราะเราแยกไว้แล้ว บางทีเจอแคชเชียร์ใจดี เค้ายังชมเลยว่า you are well organized! ยุ่นก้อยิ้ม..และขอบคุณเค้า จากนั้นไม่นาน ก้อสามารถเอาหรียญที่ฮ่งเก็บไว้ทั้งหมด นำมาใช้จนหมดเกลี้ยงเลย...ฮ่งยังชมเลยว่า ใช้หมดได้ไงเนี่ย...

สิ่งหนึ่งที่ยุ่นได้เรียนรู้จากการใช้ชีวิตที่นี่ก้อคือ การซื้อของเนี่ยต้องคำนวณก่อน...ยังไงหละ ตอนอยู่ไทยเป็นคนไม่เคยคิดคำนวณอะไรเลย คิดอยากซื้อก้อซื้อ ยี่ห้อนี้เราใช้ประจำ ก้อซื้อประจำ ไปห้างก้อไม่เคยสนใจดู promotion อันนี้ตอนอยู่ไทย...คิดว่าเพื่อนๆหลายๆคนก้อน่าจะเป็นเหมือนยุ่น คิดอยากซื้อก้อซื้อ และส่วนนึงก้ออาจเป็นเพราะตอนอยู่ไทย รายได้เราก้อพอใช้ได้ ใช้จ่ายได้ค่อนข้างสบาย...และสินค้าแต่ละ brand ก้อมีความแตกต่างกันมาก ราคาจึงแตกต่างกัน

แต่มาที่นี่ เราจะทำตัวเหมือนอยู่ไทย เราคงอยู่ที่นี่ลำบาก เพราะทุกอย่างค่าเงินเป็นแคนาเดี่ยน คูณ 30 ก้อต้องมีการคำนวณโดยอัตโนมัติก่อนซื้ออยู่แล้ว แรกๆนะจะหยิบจะซื้ออะไรเนี่ย ไม่กล้าจ่ายหมดเลย แบบคำนวณเป็นเงินไทยแล้ว มันแพงทุกอย่างเลย..

พออยู่ไปสักพักก้อเริ่มชิน แต่ก้อยังรู้สึกแพงนะ...นอกจากนี้เราเริ่มเรียนรู้จากพี่ๆคนไทยที่นี่ เพื่อนๆคนจีนที่มาอยู่ที่นี่ก่อนเรา เค้าก้อสอนวิธีคิด วิธีซื้อของให้เราใหม่ คือห้างที่นี่จะจัด promotion ทุกสัปดาห์ ทุกห้างมีหมด รายการจะสลับสับเปลี่ยนกันไป ฉะนั้นเราจะซื้ออะไร เราต้องดูว่าห้างไหนที่มีรายการ แล้วก้อซื้อให้ตรงรายการ ก้อจะประหยัดไปได้มากทีเดียว เช่นราคาปกติชิ้นละ 5 เหรียญ บางทีจัดรายการเหลือชิ้นละ 1.5 อะไรทำนองนี้ และที่นี่ของที่จัดรายการก้อเป็นของดีเหมือนกัน..และสินค้าที่นี่ แบบคนละ brand ก้อจริง แต่คุณภาพกับราคาเค้าจะไม่แตกต่างมาก เราจึงไม่จำเป็นต้องติดที่ยี่ห้อเดียว ซื้อได้เหมือนกัน...และบางอันก้อมีสะสม air miles ด้วย ซึ่งพอสะสมถึงแต้มที่กำหนด ก้อนำไปแลกเป็น gift card ใช้แทนเงินสดได้อีก เพราะฉะนั้น เวลาื้จะซื้อของที่นี่ ยุ่นต้องวางแผนเลยหละ...ก้อทำให้เรารอบคอบมากขึ้น ดูสินค้ามากขึ้น...และก้อประหยัดเงินได้มากขึ้นด้วย...

เรียกว่าในความลำบาก ไม่สะดวกสบาย ก้อได้ให้บทเรียนหลายๆอย่างกับเรา.. นอกจากนี้ในแต่ละเดือน ปกติฮ่งจะซื้อตั๋วรถเมล์เป็นตั๋วเดือน ใบละ 73 เหรียญ ซึ่งถ้าเดือนไหนยุ่นคำนวณแล้วว่ายุ่นคงไม่ได้ออกนอกบ้านมากมาย และใช้รถเมล์ไม่เกิน 30 ครั้งในเดือนนั้น หมายความว่าถ้าซื้อตั๋วแบบเป็นเล่มๆละ 19 เหรียญ สามเล่มก้อ 57 เหรียญ ก้อจะซื้อแบบเป็นเล่มดีกว่า เราก้อจะประหยัดขึ้นมาอีก 16 เหรียญ ก้อเดือนนึงเกือบ 500 บาท คือที่นี่เล็กๆน้อยๆ รวมกันก้อคือมากสำหรับเราคนไทย เพราะค่าเงินไทยกับแคนาดาแตกต่างกันสามสิบเท่า...

และนี่ก้อเป็นสิ่งที่ดีสำหรับยุ่น เพราะปกติตอนอยู่บ้านเรา ไม่เคยคิดถึงรายละเอียดเหล่านี้เลย...ใช้เงินค่อนข้างฟุ่มเฟือย..ซื้ออะไรก้อไม่ค่อยคิด...แต่มาที่นี่แบบเราจะวู่วามไม่ได้..55555 ..ซึ่งยุ่นคิดว่าสิ่งเหล่านี้ ได้ทำให้วินัยทางการเงินของตัวเราเองดีขึ้นมากๆ...และมีการยั้งคิดก่อนซื้อทุกครั้ง....

1 comment:

  1. สวัสดีจ๊ะยุ่น
    โอย..ทำไมมันต้องเรียกให้แตกต่างด้วยเนอะ เรียก 1 cent 5 cent ไม่ได้หรือ คือในแบบฝึกหัดคุมองก็มีแบบนี้เนอะ แต่ป้อมก็จำไม่ได้ ดีแล้วที่ยุ่นเขียนมาให้อ่าน จะได้จำได้เสียที การใช้ชีวิตของยุ่นนี้ต้องเรียกว่าพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสนะ ไม่อย่างนั้นเราก็ทำอะไรไม่เคยคิด เหมือนป้อมตอนนี้แหละ ซื้อของมาพอคนถามว่าราคาเท่าไร ยังไม่รู้เลย ก็ไม่ได้สนใจราคานะ รู้แค่ว่าประมาณร้อยกว่าบาท และเมืองไทยก็มีเหมือนกันนะเรื่องโปรโมชั่น แต่เราก็ไม่ค่อยสนใจ เพราะโปรโมชั่นของเราส่วนใหญ่จะเป็นของใกล้หมดอายุ
    รักและคิดถึง
    ป้อม

    ReplyDelete