Saturday, January 1, 2011

มุมมองของยีน...

ช่วงนี้เป็นช่วงหยุดยาวคริสมาสปีใหม่ ทำให้ครอบครัวเราได้มีเวลานั่งคุยเล่นกันมากมาย...วันก่อนก้อคุยกับยีนว่า...มีอะไรน่าสนใจมั้ยสำหรับเรื่องราวของยีนในแวนคูเวอร์...( คือยุ่นเริ่มมุกหมด จะขอยืมของยีนมาเขียนบ้าง ) ก้อนั่งคุยกันหลายเรื่องราว ทำให้พอมีไอเดียบ้าง..

ยีนมาอยู่ที่นี่ได้สองปีกว่าแล้ว อีกไม่กี่เดือนก้อจะสามปี...ยุ่นก้อต้องคอยสอดส่องว่าเค้ามี something's wrong มะ เพราะยุ่นไม่อยากให้เค้ามีแฟนตอนนี้เลยอ่ะ...เพราะตอนอยู่ไทยมีแฟนแล้วรู้สึกสติแตกเลย...

ยีนบอก..คุยกับเค้าไม่รู้เรื่องหรอกแม่..เพราะเราไม่ได้สามารถคุยแบบลงลึกได้..แบบตอนอยู่ไทย..เราเห็นเพื่อนทำอะไรใช่มะ...เราก้อแซวออกมาอัตโนมัติ แล้วมันก้อ get ไง..คือมันออกมาตามธรรมชาติ...แต่ที่นี่...บางทีเราไม่รู้จะแซวมันไง...คือเราต้องคิดไง..ซึ่งมันไม่ทันเวลา...อีกอย่างมุกแต่ละประเทศ...แต่ละวัฒนธรรม มันก้อแตกต่างกัน..ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้...ที่สำคัญก้อคือมันไม่ใช่ภาษาแม่ของเรา...ซึ่งอันนี้ยุ่นเข้าใจ...คือหากเราเพียงแค่คุยกันธรรมดาก้อได้...แต่บางครั้ง...โดยนิสัยหากเราชอบแซว...ชอบพูดเล่น...พอพูดไม่ออก...มันก้อเซ็งเหมือนกัน...อึดอัดเหมือนกัน...และบางทีปล่อยมุกออกไป เค้าไม่ get เราก้อจ๋อย...

เหล่านี้เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่เกิดขึ้น...ซึ่งต้องใช้เวลาในการเรียนรู้...และฝึกฝนพอควร

ก้ออย่างที่วันก่อนเล่าให้ป้อมฟัง...ที่นี่...เค้าชอบใช้ question tag แบบบางทีเวลาเราจะถามอะไรใคร เราก้อจะคิดเป็นประโยคคำถามใช่มะ...ตามแบบฉบับที่เราเรียนมา...

แต่เวลาเค้าคุยบางทีเค้าก้อใช้ tag นะ...ก้อเหมือนเราพูดภาษาไทยนะ..เช่น เธอได้ดูหนังเรื่องนี้...หรือยัง?? Did you see this movie, didn't you? แต่เวลาเราคนไทยพูดเราไม่คุ้นกับการใช้ tag เราก้อจะถามธรรมดา Did you see this movie? มันก้อไม่ผิดนะ..แต่เวลาเค้าพูดฟังดูดี..และธรรมชาติไง..ดูสละสลวยประมาณนั้น...ฮ่งก้อเลยบอก...พวกเราต้องหัดใช้ ประโยคแนวนี้บ้าง ที่นี่เค้านิยมพูด..คือเราต้องสังเกตุนะ..

หรือบางทีเราทำงานใช่มะ..ลูกค้าชมเรา..ส่วนมากเราก้อพูด thank you ฮ่งบอก..เค้าอยากพูดอะไรที่มากกว่านี้...เค้าก้อสังเกตุคนอื่นพูดอะไรบ้าง...แต่ก้อได้ยินไม่ถนัด..วันก่อนดูหนัง..เค้าก้อมีพูด.." I will take this as a compliment!" ฮ่งบอก..ต้องจำแล้วเอาไปใช้ให้ได้...แต่ในเวลาที่ใช้งานจริง..เราจะลืมและใช้แบบเดิมๆตลอด....

อย่างเวลา...เค้าพูด thank you เราเนี่ย..ยุ่นจะ auto เลยนะ... you're welcome... แต่เราก้อสังเกตุผู้ช่วยคนอื่นเค้าก้อมีพูด.. no problem, with pleasure.... เชื่อมะ...แค่ง่ายๆแบบนี้ ยุ่นยังไม่เคยพูดเลย...มีแต่ you're welcome ตลอด...แบบมันลืมอ่ะ...พอพูดเสร็จ ก้อบอกตัวเองว่าครั้งหน้านะ จะลอง จะลอง..แล้วก้อลืมทุกที..

หรืออย่างบางทีกำลังดูนักเรียนคนนี้ แล้วมิสติงเรียกเรา ยุ่นก้อเห็นในหนังมันพูด... I'll be right back !! ก้อจะพูดนะ..แต่ปรากฎยุ่นก้อพูด.. I'll be back soon. คือเราก้อคุ้นเคยแบบที่เราพูดนะ.....แต่คนอื่นอาจไม่เป็นนะ..คืออาจปรับตัวเร็ว..แต่ยุ่นเนี่ย..ทักษะทางภาษาไม่ค่อยเก่งเท่าไร..ยุ่นคิดว่ายุ่นต้องใช้เวลา..แต่อย่างฮ่งกับยีนเค้าสองคนจะค่อนข้างโอเค โดยเฉพาะยีน...ซึ่งเค้ามีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษตลอดทั้งวัน..

นอกเรื่องไปยาวเลย..กลับเข้าเรื่องที่ยีนบอก...ไงก้อมีแฟนที่นี่ยาก..(ขอให้เป็นเช่นนี้ไปนานๆ...5555) เพราะยีนรับไม่ได้ว่าที่นี่พอเป็นแฟนกันใช่มะ...แบบวันนี้ยังเป็นเื่พื่อนกันอยู่ดีๆ..พอตกลงเป็นแฟนกัน พรุ่งนี้เนี่ย...ชีวิตเปลี่ยนเลย...แบบมันหวีทหวานจนเกินเหตุ..เหมือนกลายเป็นคู่สามีภรรยาเลยอ่ะ..

เทียบกับตอนอยู่ไทย ความสัมพันธ์มันค่อยๆพัฒนา..แล้วก้อเป็นไปตามธรรมชาติ แต่ที่นี่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย...แบบทำใจรับลำบาก....คืออันนี้คุณยีนเค้าพูดเมื่อตอนอยู่ในแวนคูเวอร์สองปีกว่า...ก้อไม่รู้ว่าหากวันเวลาเปลี่ยนไป...เค้าก้ออาจเปลี่ยนแปลงไปตามอายุและสภาพแวดล้อม...เราคงต้องติดตามชมตอนต่อไป...^^

1 comment:

  1. อ่านเรื่องของยุ่นและลูก แล้วสนุกและได้แง่คิดดี Happy Family & Happy New Year na ja

    เจี๊ยบ

    ReplyDelete