Wednesday, December 23, 2009

งานในแวนคูเวอร์ ภาคสาม

ก่อนอื่นคงต้องเล่าถึงบรรยากาศของศูนย์คุมองของมิสติง...คือการจัดที่นั่งจะเหมือนเป็นเกาะ แต่ไม่มีครูผู้ช่วยนั่งที่โต๊ะ...โต๊ะหนึ่งจะสามารถนั่งได้ 6 คน...ก้อมีทั้งหมด 18 โต๊ะ junior มีสองโต๊ะ แต่ใช้จริงหนึ่งโต๊ะ...ด้านหน้าทางเข้า พอเข้าประตูมาด้านขวาเป็นโต๊ะมิสติง ด้านซ้ายจะเป็นที่วางแฟ้มเด็ก และติดกับที่วางแฟ้มจะเป็นโต๊ะครูที่ตรวจงาน...ส่วนยุ่นก้อจะนั่งอยู่ข้างๆโต๊ะมิส แต่หันหน้าไปทางนักเรียน ของมิสจะหันหน้าไปยังที่แฟ้มเด็ก อยู่ตรงทางเข้าประตูเลย...

เวลาเด็กมา..ก้อเหมือนบ้านเรา หาแฟ้มตัวเอง...ถ้าไม่เจอก้อมาหามิส คือเค้าจะคุยด้วย ก้ออาจเนื่องจากมีปัญหาเช่นการบ้านไม่ครบ ไม่แก้งาน สอบ AT รับใบ certificate ไม่ได้ชำระค่าเล่าเรียน หรือครั้งที่แล้วไม่ได้มา...เป็นต้น...เด็กก้อต้องมาเข้าแถวต่อแบบถ้ามีนักเรียนที่กำลังต่อแถว feed back เด็กก้อจะ line up...

จากนั้นพอได้แฟ้มก้อจะไปที่โต๊ะ แฟ้มเค้าจะไม่เหมือนเรา ของเราเป็นพลาสติก ของเค้าก้อหยิบแค่สมุด record book ออกมาจากแฟ้มกระดาษ เค้าเรียก record book ว่า folder แรกๆมาเรียกผิดเรียกถูกอยู่ตั้งนาน คือ folder เราคือทั้งแฟ้มพลาสติก ของที่นี่ก้อคือ record book นั่นเอง...

ใน folder หรือ record book ซึ่งหลังจากนี้จะเรียก folder จะมีงานเก่าที่ส่งอาทิตย์ที่แล้วอยู่ด้านหลัง งานใหม่อยู่ด้านหน้าสมุด..เด็กก้อจะต้องจัดงานเอง เค้าจะเขียนแต่วันที่ให้ เช่นถ้าทำสิบแผ่นก้อมีวันที่ทุกชุด เด็กก้อไป staple เอง...แต่ถ้าใครได้งานวันละ 5 แผ่น เค้าจะเขียนวันที่สองวันไว้แผ่นแรก เช่น 18/19 เด็กก้อต้องแยกแล้วเย็บเอง หรือสามวันเช่น 18/ 19 / 20 เด็กก้อแยกสี่ สาม สาม เย็บเองเหมือนกัน..การบ้านที่ส่งถ้าเป็นเด็กที่โตและรุ้เรื่อง ก้อลงบันทึกเอง แต่ถ้าเล็กหรือยังไม่เข้าใจ ก้อส่งให้ครุผู้ช่วยเค้าทำได้..ซึ่งงานสอนการบันทึกการบ้านก้อเป็นหน้าที่ของยุ่นอีกเช่นกัน...

และหลังจากนั้นเด็กก้อจะเขียนชื่อ แล้วเดินไปตอกเวลา แล้วทำ classwork แล้วตอกเวลาเสร็จ แล้วส่งครู แล้วรอเรียกชื่อ แก้งานจนเสร็จ ก้อพบมิสติง...

จากที่เล่านี่ถ้าเด็กทุกๆคนสามารถ process ตัวเองได้ ก้อจะไม่มีปัญหา แต่เนื่องจากเค้าไม่มีครูที่คอยดูนักเรียน ยังไงดีละ แบบครุผู้ช่วยก้อแบบ mark อย่างเดียว จึงไม่มีครุที่จะมองดูว่าเด็กมีปัญหาหรือไม่ เด็กเป็นอย่างไร คนที่ทำหน้าที่นี้ในอดีตก้อมีแต่มิสติงคนเดียว ซึ่งเค้าก้อจะต้อง feed back ที่โต๊ะ คุยกับผู้ปกครองด้วย เค้าไม่เคยลุกจากโต๊ะของเค้าเลย...นอกจากนานๆที แบบเด็กเสียงดังมากๆอะไรประมาณนี้เค้าถึงลุก...ซึ่งจุดนี้ ยุ่นก้อคิดว่าถ้าเราทำได้ เราก้ออยากช่วยเหลือเค้า โดยช่วยสอดส่องดูแลนักเรียนที่มีปัญหาและช่วยแก้ไขให้....

ปัญหาที่มักจะพบก้อคือเด็กลอกการบ้าน...โดยเฉพาะเด็กโต อันนี้ยุ่นก้อเคยเจอที่ศูนย์ตัวเอง....คิดว่าเป็นปัญหาที่ทุกศูนย์มีโอกาสเจอ....ตอนที่เราให้เด็กตรวจงานเอง เช่นตรวจ cw เด็กที่ทำไม่ได้ และไม่อยากมาหาเราเพราะรู้สึกเสียเวลาบ้าง อายบ้าง กลัวบ้าง ก้อทำการลอกงาน...คือเอา answer book ลอกคำตอบซะเลย ง่ายดี...แต่เนื่องจากเรามีรัตน์กับยุ้ยและครุผู้ช่วยอีกหลายคนช่วยกันสอดส่องดูแล สังเกตุ จึงจับได้และแก้ปัญหาทันที..

แต่ของมิสติงไม่มีใครช่วยดู นอกจากเค้าคนเดียว เพราะฉะนั้นก้อเป็นการยากที่จะจับได้ เด็กหลายคนเรียนจบระดับ แล้วทำการสอบ จึงรู้ว่าเค้าลอก เพราะเค้าทำข้อสอบไม่ได้เลย...แบบคนละเรื่องกับที่คุมองสอนเลย...

แต่ที่ยุ่นเจอคือแค่เรายืนดูเค้าทำข้อสองข้อ ก้อรู้แล้วว่าเด็กคนนี้ลอกงานที่บ้าน เพราะบางครั้งฉบับที่กำลังทำ มันต่อเนื่องกับการบ้าน...ก้อจะแจ้งมิสติงทุกครั้งที่เจอ...และยุ่นก้อมักจะพูดว่าเด็กอาจไม่เข้าใจตัวอย่าง maybe they don't understand.... the example....ซึ่งเราไม่เคยรู้เลยว่ามิสติงไม่ชอบประโยคนี้ เพราะเค้าไม่เคยว่ายุ่น...จนกระทั้งวันนั้น...

เวลาที่บอกมิสติงว่าเด็กลอกงาน เค้าก้อจะเรียกเด็กมา และก้อบอกว่าทำไมลอกงาน อย่าลอก จากนั้นก้อย้อนเด็กไปยาวเลย...ยกตัวอย่างเด็กผู้หญิงคนนึงเค้าอยู่ G 171 ก้อคือการแก้สมการ แต่ยุ่นรู้ว่าเค้าไม่เข้าใจตั้งแต่ G 21เลย เพราะเค้าทำผิดหมด ก้อบอกมิสเค้าก้อย้อนไปที่ G 21 เสร็จพอเด็กทำถึง H 20 เค้าก้อให้เด็กสอบ G เด็กทำข้อสอบไม่ได้เลย แบบคนละเรื่องกับที่คุมองสอนเลย...มิสติงก้อให้เด็กคนนั้นมานั่งแก้กับเค้าที่โต๊ะ...เด็กทำไม่ได้เลย..เค้าไม่รู้จะสอนยังไง จุดไหน....เค้าเลยเรียกสุวรรณีเธอเปลี่ยน sheet ให้เด็กนะ เอาตั้งแต่ G21เลยทำใหม่หมด...อึม..กรณีนี้ปัญหาเนี่ย ไม่ใช่อยู่ที่การย้อนเท่านั้น เด็กดูตัวอย่างไม่เข้าใจ เนื่องจากเด็กที่นี่ไม่ได้ฝึกดูตัวอย่างเลย...ไม่มีคนแนะในการดูเลย ทำให้เด็กแก้ปัญหาโดยการลอก...อันนี้ยุ่นวิเคราะห์เอง อาจถูกหรือผิดก้อเป็นไปได้ เพราะไม่ได้เป็นคนเดียว เป็นมากมายหลายคน โดยเฉพาะพวกเด็กโตที่รู้เรื่อง

วันนั้นก้อหยิบ G21 ให้เด็กคนนั้นและพูดกับเค้าว่า อย่าลอกงานนะ คุณเสียตังส์มาเรียน ถ้าคุณลอกคุณก้อไม่ได้อะไรเลย..คุณจ่ายตังส์เดือนนึง 90 เหรียญ มันไม่ถูกนะ...ถ้าไม่เข้าใจให้มาถามมิสติงเค้า รักษาผลประโยชน์ของเราไว้สิ เราจ่ายตังส์เรามีสิทธิที่จะถามเค้าได้...และนี่เค้าก้อย้อนคุณตั้งหลายรอบแล้ว G เนี่ยเรียนมาเกือบปีแล้ว ยังไม่ไปไหนเลย...อย่าลอกนะ...ไม่มีประโยชน์ แบบยุ่นก้อคันปาก ต้องเตือนเด็ก....เพราะมันทนไม่ได้...

มีเด็กหลายคนที่บางทีเดินดูแล้วเค้าติด เช่น 1-1/4 แบบตอนที่ทำเนี่ยอยู่ F แต่เรื่องนี้เค้าเคยเจอใน E มาแล้ว พอเค้ามาถามเราก้อเดินไปหยิบ E101 แล้วให้เค้าดูเอง บอกว่าเหมือนกันเลย เธอเคยทำ ลองดูนะ...จากนั้นก้อไม่ยุ่ง ปรากฎเด็กทำได้ วันนั้นก้อมีอีกคน ทำ H 171 โจทย์ปัญหาของสมการเชิงเส้น...ก้อหยิบแบบฝึกหัดชุด H 161 เปิดหน้าที่เกี่ยวข้องให้เค้าดู เด็กก้อ get เอง แล้วพอติดอีกก้อหยิบ H41 ให้เค้าดู เด็กก้อทำได้ เด็กเดินมาขอบคุณตอนจะกลับบ้านและบอกว่าบางทีโจทย์ข้อนึงต้องใช้หลายๆเรื่องที่เรียนมารวมกัน ...ยุ่นก้อยิ้มและบอกเค้าว่า " Yes,it is. So you have to think and apply all your skills. It's very important!"

No comments:

Post a Comment