ปีที่แล้วที่ยุ่นเพิ่งจะมาอยู่ที่แวนคูเวอร์ ก้อประมาณเดือนกันยายน 2008 ช่วงนั้นก้อเป็นช่วง Fall และหลังจากนั้นไม่นาน ก้อเข้า winter และก้อเป็น winter ที่น่าประทับใจมาก เพราะหิมะตกหนักในแวนคูเวอร์ แบบว่าไม่เคยตกแบบนี้มาเป็นเวลา 40ปีแล้ว เรียกว่าต้อนรับการมาอยู่แวนคูเวอร์ของเรา อย่างไรก้อตาม ปีที่แล้ว ยุ่นก้อยังไม่ได้ทำงาน ก้อมีแค่เรียนหนังสือ และส่วนใหญ่ก้อไม่ค่อยได้ออกจากบ้านไปนานๆ วันที่หิมะตกหนักๆก้อรุ้สึกจะไม่ได้ไปเรียน..อึม ปีที่แล้ว...ก้อรู้สึกหนาวนะ แต่ไม่หนาวและ่ทรมานมากเท่ากับปีนี้ หรือเราอาจจำความรู้สึกหนาวของปีที่แล้วไม่ค่อยได้แล้ว....
สำหรับ winter ปีนี้ 2009 ก้อเริ่มหนาวตั้งแต่เดือนพฤศจิกา จริงๆตุลาก้อหนาวแล้ว...แต่หนาวแบบยะเยือก ฝนตกทุกวัน ลมพัดแรง เวลาเดินในถนนเนี่ย สั่นเลย แต่ช่วงสองสามอาทิตย์นี้ไม่มีฝนเลย บางวันมองออกไปนอกหน้าต่าง...อึม.. ดีจังวันนี้ sunny day แต่ที่ไหนได้ หนาวกว่าวันที่ฝนตกซะอีก....ช่วงนี้อุณหภูมิติดลบทุกวันเลย -2ถึง -6 เรียกว่าเวลาเดินอยู่ข้างนอกเหมือนอยู่ในตู้เย็นช่อง freeze เลย หนาวสุดๆ หนาวอย่าบอกใครเลย....สมัยก่อนตอนอยู่ไทยยุ่นชอบหน้าหนาวเนอะ..รู้สึกมันเย็นๆ ได้เอาเสื้อหนาวเท่ห์ๆออกมาใส่ แต่มาอยู่ที่นี่ หนาวของจริง... เสื้อผ้าก้อใส่อย่างหนาตราช้าง..ไหล่เหล่ยเงี้ยแทบทรุด....และก้ออยากจะบอกว่าเป็นฤดูที่เกลียดมากถึงมากที่สุดเลย...
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ยุ่นก้อว่าเราใส่เสื้อหนาวหนาเต็มที่แล้วนะ สามชั้นบวกกับ overcoat อีกชั้น ปรากฏเอาไม่อยู่ นั่งเรียนเลขในห้องเรียนงี้ ตัวสั่นตลอด ไม่ได้ถอดออกแม้แต่ชั้นเดียว ปรากฎเพื่อนคนจีนที่นั่งข้างๆก้อเกิดอาการเดียวกัน...สั่นกันทั้งคู่... แล้วตอนเย็นไปทำงานที่คุมอง รู้สึกว่าทำไมวันนี้ศูนย์ึถึงหนาวจัง heater เสียมั้ย ให้เพื่อนดูให้ เค้าบอกปรับไม่ได้ ปรากฏมารู้ตอนหลังว่ามันเสีย...แต่พวกเค้าทั้งนักเรียนกับครูผู้ช่วยเค้าบอกเค้าไม่หนาวมาก แต่เราสิ หนาวมากเลย พอกลับมาบ้าน คืนนั้น ไข้ขึ้น เจ็บคอมาก ทำให้นึกถึงคำฝรั่งเวลาไม่สบายว่า "catch a cold" หรือว่ามันก้อคือแบบนี้นี่เอง....
ที่ไม่ชอบความหนาวเพราะหนาวเนี่ย...มันทรมานมากๆเลย...เวลาเดินใช่มะ ช่วงตัวเราก้อมีอะไรปกคลุม แต่หน้าเราหูเราไม่มีอะไรเลย จมูกเนี่ยเย็นมาก เย็นจนหายใจไม่ออก เวลาหายใจเข้าจะแสบจมูกมาก และน้ำมูกใสๆจะไหลออกมาตลอด รำคาญก้อรำคาญ เย็นก้อเย็น แสบก้อแสบ แสบจนเจ็บเลย... หูเนี่ยเย็นมาก แต่ก่อนเห็นเค้าใส่หมวกกัน ไอ้เราคิดว่าใส่เอาเท่ห์ จริงๆคือไม่ช่าย....เค้าใส่เอาอุ่น และทุกวันนี้ ยุ่นก้อต้องใส่หมวกทุกวัน...เพราะถ้าไม่ใส่ เกรงว่าหูหลุดอาจไม่รู้ตัวก้อได้ 55555 บางวันหมวกยังเอาไม่ค่อยอยู่เลย....มืออีกหละ ตัวดีเลย เพราะเราต้องถือของด้วย ถ้าไม่ใส่ถุงมือนะ เรียกว่าแข็งเลยแหละ ทีแรกจะเย็น ไม่รู้สึก จนสุดท้ายมือแข็งและปวดมาก.ปวดลงไปถึงกระดูกเลย....เข้าใจคำว่าหนาวตายแล้ว มันคงทรมานมากๆเลย.....เรียกว่าถุงมือเนี่ยต้องใส่ บางทีใส่ยังไม่อยู่เลยต้องเอามือซุกไว้ในกระเป๋าเสื้อโค๊ทอีก พวกเราสังเกตุมั้ยว่า เสื้อหนาวของฝรั่งมักมีกระเป๋าสองข้างให้มือซุก ก้อเพราะแบบนี้แหละ เวลาจะซื้อเสื้อหนาวมาใช้ที่เมืองนอก....ขอแนะนำให้ซื้อเสื้อหนาวที่มีกระเป๋าสองข้างให้เก็บมือได้ด้วยนะ......
และเราก้อต้องขึ้นรถเมล์ใช่มั้ย เวลายืนรอรถเมล์เนี่ย ลมก้อพัดแรง ไอ้ที่หนาวอยู่แล้วก้อหนักลงไปอีก หน้าหนาวเนี่ยรุ้สึกรถเมล์จะมาช้ากว่าปกตินะ...น่าเบื่อมาก....และถ้าบางทีนะกำลังข้ามถนนแล้วรถเมล์มา ยุ่นก้อจะวิ่งสุดชีวิตเพื่อให้ทันรถเมล์คันนั้น จะได้ไม่ต้องยืนหนาวรอรถคันต่อไป เชื่อมะ เวลาวิ่งช่วงหน้าหนาวนะ เหนื่อยมาก วันนั้นวิ่งดักรถเมล์ หายใจไม่ทันเลย ถึงขั้นหายใจไม่ออกเลยแหละ พอขึ้นรถรู้สึกเหมือนเราจะแย่คือนึกภาพตัวเองคงหน้าซีด หน้าเนี่ยเย็น แข็ง จมูกรู้สึกเหมือนไม่ทำงาน และเหมือนจะล้มลงไปไงไม่รู้ ต้องรีบหายใจเข้าเยอะๆ เพราะรู้สึกขาดออกซิเจน...
และนี่ก้อคือบางส่วนของการผจญกับความหนาวเย็นในแวนคูเวอร์ช่วง winter ซึ่งทำให้ยุ่นเริ่มเข้าใจว่าทำไมฝรั่งที่นี่ถึงไม่ชอบ winter และไม่ชอบให้มีหิมะตกเลย...เพราะหิมะ....นอกจากนำพาความหนาวมาแล้ว ยังทำให้การดำเนินชีวิตลำบากกว่าเดิมมาก ไม่ได้เย็นสบาย เป็นภาพสวยงามเหมือนอย่างที่เราเห็น มันมีภาพเบื้องหลัง....หิมะ....ซึ่งไม่สนุกเลย...
No comments:
Post a Comment