Saturday, December 12, 2009

ชีวิตจริงในแวนคูเวอร์ ...ของเพื่อนที่รู้จัก...

เวลาที่เราได้ยินคำว่า Vancouver Canada เราคนไทยก้อนึกภาพแบบบ้านเมืองที่มีแต่ฝรั่ง ผมทอง ผมบรอนซ์เนอะ...แต่ที่นี่แวนคูเวอร์ เหมือนเป็น ฮองคูเวอร์ เพราะคนจีนเยอะมาก มีทั้งมาจากฮ่องกง ไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่ นอกจากนี้ก้อมีพวกแขกอินเีดีย แขกขาว ฟิลิปปินส์ก้อมากมาย เวียดนามก้อเยอะ ยังมีญี่ปุ่นอีก และเดี๋ยวนี้เค้าว่าคนเกาหลีก้อมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ แต่บ้านเราคนไทย ค่อนข้างน้อย มะค่อยเจอเลย...เรียกว่าเป็น Multinational City อย่างแท้จริง...

เวลาออกไปข้างนอก ไปห้าง ซื้อของ เดินเล่น เราจะไม่ค่อยรู้สึกแตกต่างเพราะหน้าตาเราก้อแบบเอเชีย และที่นี่คนเอเชียครองเมือง ไม่ใช่ฝรั่ง Canadianครองเมือง เพราะฉะนั้นรู้สึกกลมกลืน เพียงแต่เค้าคุยกันเป็นภาษาอังกฤษกับจีนส่วนใหญ่...เคยมีครั้งนึงเร็วๆนี้เอง เดินผ่าน Oakridge Mall จะไปเรียนหนังสือ ปรากฎมีผู้หญิงท่าทางดีสองคนเดินตามยุ่นมา แบบไล่พยายามให้ทัน แล้วสะกิดถามว่า Can you speak Korean? เราก้อบอก No, I can't. I'm from Thailand. เค้าก้อโค้งขอโทษ...ก้อไม่รู้ว่าถ้าเราเป็นเกาหลีเค้าจะทำอะไรต่อ...ทุกวันนี้ก้อยังสงสัยอยู่...

เวลาที่ไปเรียนที่ South Hill เพื่อนร่วมห้องก้อจะเป็นประชาชนชาวจีนแดงส่วนใหญ่ พวกนี้บ้างก้อ immigrate เข้ามานานแล้ว แต่ทำงานในชุมชนจีน จึงไม่ได้ฝึกพุดอังกฤษ บางคนก้อยังพูดไม่ค่อยได้ บ้างก้ออึม...มาเรียนเพื่อจะไปเรียนต่อ...สายอาชีพ แต่ทุกคนต้องจบ high school ที่นี่เป็นขั้นต่ำ คือเค้าจะสนใจ Eng 12 เป็นสำคัญ บ้างก้อเหมือนยุ่นเนี่ย..คือว่างงาน ไม่มีงานทำ ก้อมาเรียนเพื่อจะไปเรียนต่อ บ้างก้อมาเรียนฆ่าเวลา และบ้างก้อมาเรียนเพื่อเอาไปช่วยสอนลูกที่มาอยู่ที่นี่ โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ เจอสองถึงสามแม่แล้วมาเรียนเพื่อเอาไปสอนลูก เวลาลูกไม่เข้าใจเลขที่โรงเรียน...ก้อเรียกว่ามีหลากหลายวัตถุประสงค์

แต่ส่วนใหญ่ร้อยละ 90 ยุ่นคิดว่ามาเรียนให้จบ high school แล้วก้อไปต่อ college หรือถ้าพวกวัยรุ่นก้อต่อ university....และวิชาแรกที่ยุ่นลงเรียนก้อคือ Eng 10 และใน class นั้น ทำให้ยุ่นได้มีโอกาสรู้จักและสนิทสนมกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่นั่งด้านขวามือยุ่น...และเราก้อได้ช่วยเหลือกัน และเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจนถึงทุกวันนี้...แม้ว่าเราจะได้เรียนด้วยกันแค่สี่ห้าเดือน...

เธอชื่อ Iku เป็นคนญี่ปุ่น ไม่ได้ถามอายุนะ แต่เดาอายุน่าจะประมาณ 30 กว่าๆ ที่นี่การถามอายุเป็นการเสียมารยาท ยุ่นจึงไม่กล้าเปิดคำถามนี้แม้จะสนิท... Ikuมาอยู่ที่แวนคูเวอร์ปีนี้เป็นปีที่เก้าแล้ว มาอยู่คนเดียว....สุดยอด อยู่ได้ไง...คิดในใจเพราะยุ่นไม่แน่ใจว่ายุ่นจะอยู่คนเดียวในบ้านเมืองที่เราไม่เกิดได้มั้ย??? มาครั้งแรกแบบเหมือนเป็นการแลกเปลี่ยนทุนอะไรประมาณนั้น มาแล้วชอบมาก ก้อประมาณเกือบสิบปีที่แล้ว. ... มาก้อไม่ได้ทำอะไร เที่ยวแล้วก้อเรียนนิดหน่อย รู้สึกสนุกและชอบ Vancouver มาก กลับไปก้อพยายามที่จะต้องมาให้ได้ ก้อศึกษาว่าจะมาได้ไง ตอนนั้น Iku เพิ่งเรียนจบไม่นาน และทำงานเป็นเหมือนติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษที่ญี่ปุ่น...เออ..ลืมถามเมือง..ว่าเมืองอะไร...ไว้คงต้องถาม เธอบอกเครียดมากๆเลย..เพราะเวลาสอนเด็กที่โน้นแบบติวเตอร์ต้องรับผิดชอยมากๆ ถ้าเด็กสอบเข้าโรงเรียนดีๆไม่ได้ ผลงานก้อไม่ดี ต้องพยายามผลักดันให้เด็กสอบเข้าโรงเรียนดังๆให้ได้ Iku เครียดจนผมร่วงเยอะมาก เธอเล่าให้ฟัง แววตาหวนระลึกถึงภาพเก่าๆในอดีต...ตาดูเศร้าๆ

หลังจากได้มาอยู่แวนคูเวอร์หนึ่งปีก้อติดใจ กลับญี่ปุ่นก้อไม่อยากทำแล้วไอ้งานติวต้งติวเตอร์ ก้ออยากมาอยู่ที่นี่ ก้อศึกษาข้อมูลพบว่า ถ้าหากมาเป็น Nanny ที่นี่สองปีหรือ 365x2 วัน ก้อจะมีสิทธิที่จะ apply เป็น PR ที่แคนาดา ก้อเลยตัดสินใจสมัครเป็นnanny และบินมาที่แคนาดาเมื่อแปดเก้าปีที่แล้ว...

Iku ก้ออยู่กับครอบครัวชาวญี่ปุ่นที่แต่งงานกับคนแคนาดาที่นี่ มีลูกสองคนเล็กๆให้ดูแล...เธอเล่าว่าเป็นชีวิตที่ทนทุกข์ทรมานมาก....ได้ค่าแรงชั่วโมงละ 8 เหรียญ ทำงานเก้าโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น...วันละแปดชั่วโมง...เครียดมากเพราะคนญี่ปุ่นผู้หญิงเนี่ยเป็นคนละเอียดมาก ตรวจฝุ่นในบ้านแบบเอามือกรีดไปตามจุดที่ต้องการตรวจสอบว่าสะอาดมั้ย....พื้นห้องต้องกวาดถูแบบไม่มีฝุ่นเลย...ยุ่นก้อถามว่าแล้วกินอยู่ยังไง เธอก้อบอกว่ากินอยู่กับเค้า คือเค้าจะให้ Iku อยู่ห้องข้างล่างซึ่งที่นี่จะเรียก basement และคิดค่าเช่าด้วยนะ ค่าอาหารก้อคิดด้วยนะ สรุปเดือนๆหนึ่งได้เงินเดือนมา จ่ายค่าเช่ากับค่าอาหาร ก้อเรียกว่าเกือบพอดีพอดีเลย ไม่มีเงินเหลือเก็บเลย....ยุ่นก้อบอกแล้วทำไมไม่ย้ายไปทำกับคนอื่น เธอก้อเล่าว่าถ้าย้ายก้อกลัวเจ้านายคนนี้จะไม่เขียนให้เธอว่าเธอได้ทำงานอยุ่ที่นี่มาระยะหนึ่งแล้ว...และก้อเหมือนต้องเริ่มต้นใหม่ ก้อไม่รุ้เจ้านายใหม่เป็นไง ก้ออดทนจนครบสองปี นอนร้องไห้ทุกวันเลย...ไม่กล้าเขียนไปเล่าให้พ่อกับแม่ที่ญี่ปุ่นฟังด้วย เพราะเป็นคนที่ตัดสินใจมาเอง เค้าห้ามก้อไม่ฟัง ก้อไม่อยากทำให้พ่อกับแม่ไม่สบายใจ ก้อเลยอดทนจนครบสองปี แล้วเจ้านายเค้าก้อ sign ในเอกสารว่า Iku ทำหน้าที่ Nanny ครบสองปี แล้วก้อ apply PR .....ฟังเรื่องของ Iku แล้ว ไอ้เรื่องที่เราทำความสะอาดห้องคืนป้า Rayเนี่ยเป็นเรื่องจิ๊บๆไปเลย...ก้อให้รู้สึกว่า Iku เนี่ยดูจากภายนอกเหมือนเป็นคนที่อ่อนโยน แต่ข้างใน Iku เข้มแข็ง และเด็ดเดี่ยวมากๆเลย...ทำให้ยุ่นเองรู้สึกชอบเธอ และรู้สึกว่าเราได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างจากเธอ...

และหลังจากนั้น Iku ก้อ free ก้อออกหางานทำ ก้อทำอีกสองหรือสามที่ ไม่ดีก้อออก จนในที่สุดได้บริษัทล่าสุดดีมาก เป็นของคนญี่ปุ่น เธอชอบงานนี้ เจ้านายก้อเป็นชาวญี่ปุ่นและดีกับเธอ เธอต้องไปต้อนรับแขกของเจ้านาย ไปทานข้าวด้วยกันอะไรแบบนี้ เป็นงานที่ไม่เครียดและค่อนข้างสบาย...รายได้ก้อโอเคแต่ไม่สูงมาก....แต่ไม่นาน บริษัทนี้ก้อปิดกิจการลง...เนื่องจากปัญหาเรื่องเงินทุน เธอเลยถูก lay-off Ikuเล่าว่าเนี่ย สุวรรณีเชือ่มะ ถ้าไม่ถูก lay off ก้อยังไม่รู้เลยว่าจริงๆรัฐบาลแคนาดาเค้ามีนโยบายช่วยเหลือคนที่ตกงานโดยบริษัทปิดตัวลง เพื่อนๆก้อบอกให้ใช้สิทธิ เธอจึงใช้สิทธิของการถูก lay off โดยระหว่างที่ยังหางานใหม่ไม่ได้ รัฐบาลก้อช่วยค่าใช้จ่าย Iku เดือนหนึ่งก้อประมาณ 8-900 เหรียญ ตกสัปดาห์ละ 200 กว่าเหรียญ เป็นเวลาเกือบห้าสิบสัปดาห์ แต่กฎเกณฑ์ใหม่รู้สึกจะเปลี่ยนเป็นห้าสิบสองสัปดาห์แล้ว... เลยทำให้ Iku ได้มาเรียนที่ South Hill ตอนนี้เลยคิดว่าจะต้องเรียนจบ high school แล้วจะไปเรียนต่อ Librarian assistant เพื่อจะได้มีรายได้ที่ดีขึ้น..ช่วงที่เธอเรียนเธอไม่ได้ทำงานนะ เพราะมีเงินก้อนนี้ที่ช่วยเหลือเธออยู่...

แต่พอหลังจากนั้นที่เราคุยกันอีกสามเดือน เธอก้อเล่าให้ฟังอีกว่า สุวรรณีตอนนนี้ Iku จะหมดระยะเวลาที่รัฐให้เงินแล้ว ตอนนี้คงต้องหางานทำแล้ว...จากนั้นไม่นานเธอก้อได้งานทำใน Aquarium ......แต่ก้อตกชั่วโมงละ 8 เหรียญ เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย บางทีเธอก้อไปสอบที่มหาลัยที่เธอเลือกจะเรียน Librarian Assistant คือถ้าสอบผ่านในคะแนนที่ดีก้อสามารถขอทุนรัฐบาลเรียนฟรีได้ ซึ่งเธอต้องการเช่นนั้น เพราะค่าเล่าเรียนก้อค่อนข้างสูง....เรียกว่าเธอเป็นหญิงอึดมาก...แต่เธอสอบสองถึงสามครั้งก้อยังไม่ผ่าน เพราะที่นี่ภาษาอังกฤษโหดมาก...ไม่สามารถผ่านกันง่ายๆ..

และเราก้อไม่ได้เจอกันนานพอควร ก้อน่าจะประมาณ 6 เดือนได้ แล้วเธอก้อโทรศัพท์มาหาให้ยุ่นช่วยติว math 11 ให้หน่อยเพราะถ้าเธอผ่านตัวนี้ เธอก้อ graduate ที่ south Hill แล้ว ยุ่นก้อยินดีช่วยเหลืออยู่แร้ว...ในที่สุดเธอก้อผ่านฉลุย และ graduate เรียบร้อบแล้ว...แต่เธอเล่า plan ใหม่ของเธอก้อคือเธอจะกลับญี่ปุ่นไปสามเดือนก่อน ตอนนี้ขณะที่กำลังพิมพ์เรื่องเธออยู่ เธอคงอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้ว...และเธอก้อคิดว่าเธอจะไปอยู่ที่ Toronto เพราะเผื่อว่าเปลี่ยนที่เปลี่ยนทางแล้วเธอจะมีชีวิตที่ดีขึ้น ยุ่นก้อถามว่าไปคนเดียวเหรอ เธอบอกใช่ เธอกะจะไปเริ่มต้นใหม่ที่โน้น เธอรุ้สึกว่าเธออยุ่แวนคูเวอร์เนี่ยไม่โอเค ชีวิตเธอตกต่ำลงเรื่อยๆ หางานดีๆก้อไม่ได้...ซึ่งยุ่นก้อได้แต่เตือนเธอว่า คิดดีๆนะ เพราะที่โน้น Iku ไม่มีเพื่อนเลยและอากาศก้อหนาวมากๆเลย เพื่อนหลายคนที่ยุ่นรู้จักที่นี่เค้าก้อย้ายมาจาก Toronto เพราะทนความหนาวเย็นไม่ได้...เธอบอกเธอรู้ว่านี่คือโจทย์ที่ยากสำหรับเธอ เธอคงต้องใช้เวลาคิดพิจารณาอีกสักระยะหนึ่ง...และคำตอบจะเป็นอย่างไร...อีกสามเดือนข้างหน้า...ยุ่นก้อคงรู้ ว่า Ikuจะกลับมาแวนคูเวอร์ หรือไปอยู่โตรอนโตหรือว่าไม่กลับมาแคนาดาอีกเลย....แต่เลือกที่จะอยู่ที่ญี่ปุ่นบ้านเกิดของเธอเอง....

และนี่ก้อคือ Iku ซัง ที่ยุ่นได้มีโอกาสรู้จักกับเธอที่แวนคูเวอร์ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีโอกาสพานพบมาเจอกัน ยุ่นเป็นคนไทย Ikuเป็นคนญี่ปุ่น แต่เรามาเจอกันที่แคนาดา....คงเพราะเราสองคนคงเคยทำอะไรร่วมกันมาชาติที่แล้ว จึงทำให้เราต้องได้มารู้จักและได้เป็นเพื่อนกันอีก......ยุ่นคิดนะ...

No comments:

Post a Comment