Wednesday, December 23, 2009

งานในแวนคุเวอร์ ภาคสี่

เนื่องจากมิสติงเค้าให้ค่าแรงยุ่นเริ่มต้นที่ชั่วโมงละ 15 เหรียญ เราก้อรู้สึกซาบซึ้งในความเมตตาที่เค้ามีกับเรา ฉะนั้นเค้าให้มาเริ่มงานสามครึ่ง บางทียุ่นก้อมาสามโมงสิบห้า สามโมงยี่สิบ แต่จะลงเวลาเริ่มงานที่สามโมงครึ่งถึงทุ่มทุกครั้ง เพราะเกรงใจเค้า...แต่การเข้ามาก่อนก้อทำให้เราได้ clear งานต่างๆไปได้ส่วนหนึ่ง...ซึ่งทำให้ยุ่นเองก้อทำงานได้สบายขึ้นและมิสติงก้อน่าจะพอใจ

พอทำไปสักสองเดือนเค้าก้อบอกว่าสุวรรณี หลังจากนี้เธอเขียนค่าจ้างเนี่ยทุกวันที่มาทำงานเนี่ย 60 เหรียญต่อวันเลยนะ...คือไ่ม่ต้องเขียนสามชั่วโมงครึ่งคูณ 15 ก้อ 45 ใช่มะ เค้าบอกให้เป็น 60 เลย คือเค้าคงเห็นเราขยันและมาเร็วแต่ลงเวลาน้อยกว่าความเป็นจริง ตั้งแต่เค้าขึ้นให้ ยุ่นก้อเลยมาทำงานตั้งแต่บ่ายสามโมง เพราะจะได้ไม่รู้สึกว่าเราเอาเปรียบเค้า...พอมาถึงที่ศูนย์ก้อจะยกเก้าอี้ทั้งหมดลง (แต่ก่อนมาสามโมงครึ่ง มิสติงเค้ามาก่อนเค้าจะเป็นคนทำ) แล้วก้อเก็บกวาดเช็ดโต๊ะให้เรียบร้อย แล้วก้อนั่ง clear งานต่างๆไปเรื่อยๆ.....บางครั้งทำเสร็จเร็ว ก้อจะหยิบแฟ้มนักเรียนขึ้นมาศึกษา

พูดถึงความมีน้ำใจเค้าก้อมีน้ำใจกับยุ่นมาก...ไปส่งยุ่นที่บ้านทุกวันหลังเลิกงาน...ช่วงแรกที่ทำงานกับเค้า (ก่อนกลับไทย) รู้สึกดีมาก...และทุกครั้งที่ทำงานจะคิดเสมอว่าเหมือนเป็นศูนย์ของเรา แบบเราเองเราอยากได้ลูกน้องแบบไหน ก้อจะพยายามทำงานให้ดีที่สุด..ในแบบฉบับของเรา...เป็นลูกน้องที่ดีเท่าที่จะทำได้..

พอกลับจากไทยมาครั้งนี้ เค้าก้อขึ้นค่าแรงให้เป็น 17 เหรียญต่อชั่วโมง...ก้อรู้สึกดีนะ...แต่ครั้งนี้ไม่รู้ว่าเนื่องจากไม่ได้ทำงานมาสองเดือน ทำให้ยุ่นเฉื่อยลง หรือว่าเพราะแกเหนื่อยช่วงที่ยุ่นไม่อยู่ แบบแกเรียกใช้ตลอดเวลาแบบไม่หยุดเลย...จนกระทั่งหลังเลิกงานรุ้สึกเหนื่อยมาก แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน...

ทีแรกก้อคิดสงสัยเพิ่งกลับมา ยังปรับตัวไม่ได้ ต้องปรับอีกสักแป๊บ แต่ปรากฏมิสติงเรียกใช้แบบนี้ทุกวันที่ทำงาน เรียกว่าทำกันจนหัวหมุนเลยแหละ....แต่ยุ่นก้อพยายามนะ ไม่บ่น ไม่พูด พยายามทำให้ได้ในสิ่งที่เค้าบอกให้เราทำ...คือก้อยังคิดว่าไหวนะ ไหว..สู้ดูสักตั้ง...ให้มันรู้ไปว่าทำไม่ได้..

แต่การที่ยุ่นทำคนเดียวเรื่อยๆมันก้อยิ่งเป็นการเคยชิน ทำให้มิสติงยิ่งชอบเรียกใช้เรา เพราะเห็นว่าเราทำได้ ส่งงานให้เท่าไร ก้อทำได้..แต่การทำงานยิ่งทำมาก ก้อมีโอกาสผิดพลาดได้...และนี่ก้อคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันพฤหัสที่ 26 พฤศจิกายน 2009 ที่จะต้องเป็นบทเรียนสำหรับตัวเรา ในการเป็นลูกน้องแบบไหน และถ้าเป็นเจ้านาย เราควรเป็นแบบไหน..

No comments:

Post a Comment