ทีแรกตอนที่มาส่งลูกที่แวนคูเวอร์ ก้อตั้งใจจะอยู่แค่สองอาทิตย์ แต่ทำไปทำมาไม่ลงตัว เพราะฮ่งต้องไป train ยีนต้องไปสอบที ่Vancouver School Board เพื่อดูว่าจะต้องเรียนที่นี่อย่างไร ทำไปทำมาเลยต้องเลือ่นตั๋วเครื่องบิน อยู่ต่ออีกหนึ่งอาทิตย์
ช่วงสามอาทิตย์ที่มาอยู่แบบไม่ใช่ของจริง ที่บอกว่าไม่ใช่ของจริงเพราะมันเพียงชั่วคราว ความรู้สึกตอนนั้นรู้สึกว่าแบบนี้เราชอบแน่เลย เราอยู่ได้สบายๆ ตื่นเช้ามาก้อเตรียมข้าวกล่องหรือ lunch box ให้สองคนพ่อลูก เสร็จก้อเตรียมอาหารเช้า ...จากนั้นก้อทำความสะอาดบ้าน ซึ่งก้อแป๊บเดียว ดูดฝุ่นอาทิตย์ละครั้ง ซักเสื้อก้ออาทิตย์ละครั้ง จ่ายกับข้าวก้ออาทิตย์ละครั้ง มีอะไรอีก ก้อหมดแล้ว เฮ้อ...สบายมาก ไม่มีปัญหา ก้อตกลงกับฮ่งว่าจะมาอยู่
ฮ่งก้อเงียบ ไม่พุดอะไรเลย แบบยุ่นก้อเป้นคนใจร้อน คิดเร็ว ตัดสินใจเร็ว และมองว่าคงไม่มีอะไร ที่สำคัญคือห่วงเรื่องสุขภาพของสองหนุ่ม ฮ่งไม่พูดเรือ่งการที่จะให้ยุ่นมาอยู่ อาจเพราะเค้าคงเจออะไรที่ลำบากมากๆ และคงไม่อยากให้เราลำบาก หรืออาจคิดว่าเราไม่น่าจะทนได้ เพราะยุ่นเนี่ยเป็นคนที่มี threshold ของความอดทนต่ำมาก.... 55555
แต่ในที่สุด ก่อนวันที่ต้องบินกลับไทย ฮ่งคงรู้สึกว่ายุ่นต้องมาอยู่หรือไงก้อไม่รุ้ แต่ยุ่นก้อบอกว่าอย่างไรก้อตาม ครอบครัวเราคงแยกกันอยู่แบบนี้นานๆไม่ได้ เพราะยุ่นอยุ่ไทยคนเดียวก้ออาจสบายกายจริงแต่ไม่สบายใจ ยังไงก้อตาม เราก้อลงเรือลำเดียวกันแล้ว ก้อลุยด้วยกันก้อแล้วกัน....ครอบครัวมาก่อน และจากการคำนวณรายได้ของฮ่งตอนนั้น บวกกับเงินที่รัฐบาลช่วยเหลือเรา ครอบครัวเราก้อน่าจะพออยู่ได้...เอานะ....ลองดูสักตั้ง...
และนั่นก้อคือจุดเริ่มต้นของการตัดสินใจว่า ยุ่นต้องไปสมทบที่แวนคุเวอร์ อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัว...ซึ่งเรื่องราวหลังจากนั้น มันไม่ได้ง่ายเหมือนสามอาทิตย์แรก...เพราะมันคือการอยู่จริง...
อยากอ่านของจริงต่อค่ะ อย่าลืมนะคะ
ReplyDelete